
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 34.50-35.10 บาทต่อดอลลาร์ ลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-35.10 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 34.61 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.47-34.72 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใสเกินคาด
ขณะอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) สหรัฐระยะ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 นอกจากนี้ รายงานประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ถึงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์และผลกระทบต่อทิศทางเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟดจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปีนี้เป็นอย่างเร็ว อย่างไรก็ตาม นายวอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อน่าจะลดลงต่อไปในปี 2568 นี้ และเฟดยังอยู่บนเส้นทางของการลดดอกเบี้ย ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทย 1,383 ล้านบาท และ 3,331 ล้านบาทตามลำดับ
สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ ตลาดจะให้ความสนใจกับตัวเลขเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกเดือนธันวาคมของสหรัฐ รวมถึงความเห็นเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยต่อไป ทั้งนี้ ข้อมูลภาคแรงงานที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาดทำให้นักลงทุนเชื่อว่ามีโอกาสสูงขึ้นที่เฟดจะเว้นระยะการลดดอกเบี้ยเป็นเวลานานหลายรอบประชุม
ขณะที่ในบริบทของค่าเงินเยน กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ มองว่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอาจเปิดทางให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยปลายเดือนนี้ หรืออย่างน้อยส่งสัญญาณสื่อสารกับตลาดเกี่ยวกับการปรับดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม ทางด้านค่าเงินปอนด์ร่วงลงตามแรงเทขายพันธบัตรระยะยาวของอังกฤษ ซึ่งสะท้อนว่าบอนด์ยิลด์ที่สูงขึ้นนั้นไม่ได้หนุนค่าเงินเสมอไป โดยเฉพาะกรณีที่เกิดจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการคลัง
สำหรับปัจจัยในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมรอบล่าสุดไม่ได้ตัดโอกาสสำหรับการปรับนโยบายในอนาคต ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนธันวาคมอยู่ที่ 1.23% เทียบรายปี โดยกลับสู่กรอบเป้าหมายของ ธปท. แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.79% ต่ำกว่าคาดเช่นกัน
ขณะที่ในปี 2567 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและพื้นฐานเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.40% และ 0.56% ตามลำดับ โดยกระทรวงพาณิชย์คงประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2568 ไว้ในช่วง 0.3-1.3%