SET ฟื้นตัวรับ “ทักษิณ” โชว์วิสัยทัศน์ เรียกความเชื่อมั่น-ปลุกตลาดหุ้นไทย

หุ้น

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินหุ้นไทยวันนี้ ฟื้นตัว แนวต้าน 1,370 จุด แนวรับ 1,340 จุด โดยรับปัจจัยหนุนจากการแสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร เพื่อการพัฒนาตลาดหุ้น สร้างความเชื่อมั่นดึงดูดนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ยังต้องระวังความผันผวนก่อนการเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ในวันจันทร์หน้า หุ้นแนะนำ BCP-KTB

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด รายงานว่า คาด SET ฟื้นตัว โดยได้ปัจจัยหนุนจากการแสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร เพื่อการพัฒนาตลาดหุ้น และสร้างความเชื่อมั่นดึงดูดนักลงทุน รวมถึงตั้งเป้า GDP ปีนี้เติบโตเกิน 3% และปีหน้าที่ 4% โดย SET มีแนวต้านที่ 1,370-1,380 จุด อย่างไรก็ตาม ยังต้องระวังความผันผวนก่อนการเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ในวันจันทร์หน้า ด้านแนวรับอยู่ที่ 1,340-1,350 จุด

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัว โดยมีแนวต้านที่บริเวณ 1,400 จุด แม้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแย่กว่าภูมิภาคจากความกังวลเสถียรภาพการเมืองและ ESG ของ บจ. รวมทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการส่งออกรถยนต์ที่คาดอ่อนแอลง แต่ยังมีความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลดค่าครองชีพในประเทศเพิ่มเติม รวมถึงการเริ่มต้นของมาตรการ Easy E-Receipt ตั้งแต่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568 จะช่วยกระตุ้นงบฯ 1Q68

ด้านปัจจัยต่างประเทศ ตลาดคาด GDP 4Q67 ของจีนจะเพิ่มขึ้น 5% YOY และเงินเฟ้อ ธ.ค. 2567 ของสหรัฐ เร่งตัวขึ้น 2.9% YOY ทั้งนี้มองแนวโน้มการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและการลดดอกเบี้ยของเฟดจะยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม อาจจะไม่กดดันลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากนัก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนําให้ “Selective Buy”

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม

ครม.มีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ. Entertainment Complex ตามคลังเสนอ คาดจะนำเสนอทันการประชุมสภาสมัยนี้ และอนุมัติหลักร่าง พ.ร.ฎ.เกี่ยวกับมาตรการภาษีส่งเสริมการลงทุนในเศรษฐกิจพิเศษ โดยลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 10% เป็นเวลา 10 รอบบัญชี

• ครม.มีมติเห็นชอบงบฯกลาง วงเงิน 160 ลบ. เพื่อศึกษาการพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบสถานีรถไฟที่มีศักยภาพ (บ้านเพื่อคนไทย) ให้ผู้มีรายได้น้อย-จบใหม่ วันที่ 17 ม.ค. จะเปิดตัวบ้านตัวอย่างเป็นทางการ

ADVERTISMENT

• อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร แนะเร่งแก้ไขปัญหาความเชื่อมั่น, ให้ความสำคัญเรื่องธรรมาภิบาล,เสริมแกร่งหน่วยงานกำกับดูแล พร้อมชี้โอกาสทางเศรษฐกิจ เช่น Entertainment Complex, การเช่าทรัพย์อิงสิทธิ์ 99 ปี, การลดต้นทุนไฟฟ้าเพื่อดึงดูดการลงทุน เป็นต้น

• BOI เผยยอดลงทุนปี 2567 เกิน 1.13 ล้าน ลบ. เพิ่ม 35% สูงสุดในรอบ 10 ปี ย้ำไทยฐานลงทุนสำคัญ ตั้งเป้า 2568 ลงทุนเติบโตต่อ ดึงดูดอุตฯในยุทธศาสตร์เกิน 1 ล้าน ลบ. แก้อุปสรรคดันลงทุนรวม 5 ปี 5 ล้าน ลบ.

ADVERTISMENT

• FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนใน 3 เดือนข้างหน้า ปรับลงสู่เกณฑ์ซบเซาที่ระดับ 78.52 การฟื้นตัวเศรษฐกิจ จะหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองมาคือ การไหลเข้าของเงินทุนและการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว

• ม.หอการค้าไทยประเมินเศรษฐกิจปี 2568 ท้าทาย โดยมอง 1H68 จะขับเคลื่อนโดยการส่งออกซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากการเร่งนำเข้าสินค้าก่อนจะมีการปรับอัตราภาษี ขณะที่ 2H68 น่าเป็นห่วงหลังนโยบายการค้าสหรัฐเริ่มมีผล แนะฟื้นโครงการคนละครึ่งกระตุ้นการใช้จ่าย

• การส่งออกจีน ธ.ค. 67 เติบโต 10.7% YOY สูงกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่การนำเข้าพลิกเติบโต 1.0% YOY ผิดจากที่ตลาดคาดว่าจะหดตัว

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้น แต่ Upside จำกัด โดยรอการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐ และนโยบายการค้าของสหรัฐ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 2 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้

1. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากมาตรการ Easy E-Receipt ช่วงวันที่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568 และเงินหมื่นเฟส 2 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน แนะนำกลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO CPALL TNP) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CBG OSP) และกลุ่มท่องเที่ยว (MINT)

2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูง ซึ่งคาดมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield เกิน 3% เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ต แนะนำ AP KTB BBL PTT

3. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้น สะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YOY และ QOQ อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ เลือก OSP AMATA AU TIDLOR BCP

4. Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรใน 1) หุ้นที่ได้ Sentiment บวกหากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น แผนดึงเม็ดเงินลงทุน ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน Entertainment Complex และลดค่าครองชีพ-เพิ่มกำลังซื้อ แนะนำกลุ่มนิคม (WHA AMATA) กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CRC) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT AWC) และ 2) หุ้นที่ราคา Laggard (เทรด PER 2568F ต่ำกว่า -1SD) แต่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มเติบโตดี แนะนำ BTG BEM BDMS

หุ้นแนะนำวันนี้

BCP : 4Q67 คาดผลประกอบการจะฟื้นตัวเด่นทั้ง YOY และ QOQ จากค่าการกลั่นและราคาก๊าซในยุโรปที่เริ่มฟื้นตัว อีกทั้ง BCP ยังเป็นหุ้นปันผลสูงซึ่งสามารถสร้างกระแสเงินสดให้พอร์ตลงทุนได้ โดยคาดให้ Div. Yield ปี’67 และปี’68 ราว 4.2% และ 7.6% ทั้งนี้แนะนําราคา เข้าซื้อเก็งกําไรวันนี้ไม่เกินหุ้นละ 33.50 บาท

KTB : มองเป็นหุ้นปันผลสูงซึ่งสามารถสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนภายใต้ภาวะตลาดหุ้นไทยที่ยังรอคอยปัจจัยชี้นำใหม่ ๆ โดยคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2567 หุ้นละ 1.06 บาท (จ่ายปีละครั้ง) คิดเป็น Div. Yield สูงปีละ 4.9% ขณะที่ 4Q67 คาดกำไรจะเติบโต 50% YOY สูงสุดในกลุ่มธนาคาร