
ดีเดย์ Easy E-Receipt 2.0 ช็อปสินค้า-ค่าบริการลดหย่อนสูงสุด 50,000 บาท สำหรับปีภาษี 2568 เริ่มแล้ววันนี้ถึง 28 ก.พ. 68
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันแรกของมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในปี 2568 สำหรับผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซื้อสินค้าหรือบริการในราชอาณาจักร ได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุด 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับเอกสารยืนยันการใช้จ่ายในรูปแบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เท่านั้นนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2568 โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้
คุณสมบัติผู้เข้าร่วม
กำหนดให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเท่านั้น แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
สิทธิประโยชน์
สามารถนำค่าสินค้าหรือบริการที่กำหนดไปลดหย่อนภาษีในปี 2568 ตามจำนวนจ่ายจริง ได้สูงสุด 50,000 บาท
ซื้อสินค้าอะไรได้บ้าง
เงื่อนไขการลดหย่อนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้
สินค้าที่เข้าร่วม
1.ค่าใช้จ่ายในร้านค้าทั่วไป 30,000 บาท
สำหรับค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) แบบเต็มรูปเป็นหลักฐาน หรือผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่ไม่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องมีใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เป็นหลักฐาน
2.ลดหย่อนเพิ่มได้อีก 20,000 บาท
สำหรับค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการดังต่อไปนี้ โดยต้องมี e-Tax Invoice แบบเต็มรูป หรือ e-Receipt เป็นหลักฐาน
– ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
– ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชนที่ได้จดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร
– ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ได้จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
ทั้งนี้เมื่อรวมมูลค่าซื้อสินค้าและบริการตามข้อ 1 และข้อ 2 ลดหย่อนรวมกันไม่เกิน 50,000 บาท
สินค้าที่ไม่ร่วมรายการ
– ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
– ค่าซื้อยาสูบ
– ค่าซื้อน้ำมัน ค่าซื้อก๊าซ และค่าบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับเติมยานพาหนะ
– ค่าซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และค่าซื้อเรือ
– ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ และค่าบริการ สัญญาณอินเทอร์เน็ต
– ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าว นอกเหนือจากระยะเวลาตามที่มาตรการนี้กำหนด
– ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และค่าที่พักโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย หรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม
วิธีการค้นหาร้านค้าร่วมมาตรการ
สามารถเช็กร้านค้าและบริการที่สามารถออกใบเสร็จที่ออกใบรับอิเล็กทรอนิกส์ และใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร ซึ่งจะปรากฏรายชื่อร้านค้า โดยสามารถทำตาม 3 ขั้นตอนได้ดังนี้
- เข้าสู่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.etax.rd.go
- มองหาเมนูผู้ได้รับอนุมัติ จากนั้นกด “เลือก”
- ระบบจะปรากฏรายชื่อร้านที่ได้รับการตรวจสอบจากกรมสรรพากร และสามารถออกใบเสร็จที่ถูกต้องได้
ระยะเวลามาตรการ
ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 68 ถึงวันที่ 28 ก.พ. 68
วิธีใช้สิทธิลดหย่อน
ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการต้องแจ้งข้อมูลให้ผู้ประกอบการใช้ออก e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ดังนี้
- ชื่อ-นามสกุล
- ที่อยู่
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวบัตรประชาชน)
โดยเมื่อแจ้งข้อมูลครบแล้ว ข้อมูลการซื้อสินค้าและการบริการจะปรากฏใน My Tax Account ของผู้เสียภาษี และสามารถใช้ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2568