เงินบาทแข็งค่า หลัง Core CPI สหรัฐ ต่ำกว่าคาด

เงินบาทแข็งค่า หลังดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) สหรัฐ หรือมาตรวัดเงินเฟ้อที่ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศ แบงก์กรุงเทพชี้เศรษฐกิจปีนี้จะโตได้ 3 %

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2568 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (16/1) ที่ระดับ 34.52/53 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (15/1) ที่ระดับ 34.69/71 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อคืนที่ผ่านมา (15/1) กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI พื้นฐาน (ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน : Core CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือน พ.ย.

ส่วนดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายปีสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือน พ.ย.

ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลง และสอดคล้องกับที่กระทรวงได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% หลังจากปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือน พ.ย.

ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.8% หลังจากปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือน พ.ย. ทั้งสหรัฐอเมริกายังพบเจอเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในพื้นที่ลอสแอนเจลิส มหันตภัยครั้งนี้นับเป็นภัยพิบัติทางสภาพอากาศที่สร้างความเสียหายมากที่สุดครั้งประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา โดยมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว ๆ 8.6 ล้านบาท)

ADVERTISMENT

นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs ให้ความเห็นว่าการเติบโตในไตรมาสแรกจะชะลอตัวลง 0.2% โดยถือว่ากิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูประเทศไม่สามารถทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ อีกทั้งการเติบโตของการจ้างงานสหรัฐ ในเดือน ม.ค. มีแนวโน้มลดลง 15,000-25,000 ตำแหน่ง ซึ่งถือป็นตัวเลขฉุดรั้งเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือน ธ.ค. ปีก่อนหน้า ซึ่งมาจากการสั่งการให้ชาวแคลิฟอร์เนียประมาณ 0.5% ต้องอพยพ

ด้านปัจจัยภายในประเทศ วันนี้ (16/1) คุณชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้ มองว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) อยู่ที่ 3% หรือดีกว่าในระดับดังกล่าว แม้ว่าจะมีดิสรัปชั่น แต่โดยรวมจะขยายตัวได้ ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการและการลงทุนภาครัฐที่ทยอยออกมาที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโต

ADVERTISMENT

ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมธนาคารคาดว่าจะเติบโตสอดคล้องกับเศรษฐกิจ ซึ่งธนาคารกรุงเทพตั้งเป้าเติบโตขยายตัว 3-5% โดยขยายในทุกกลุ่มสินเชื่อ เผยตลาดอาเซียนมีศักยภาพในการลงทุน แนะจับตา 3 โจทย์ใหญ่ ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ โลกร้อนและความยั่งยืน Gen AI เดินหน้าสร้างเครือข่ายความรู้แก่ลูกค้าพาลูกค้าเติบโตอย่างยั่งยืน

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทนักวิเคราะห์มองว่า แม้ว่าจะกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามรายงานอัตราเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐที่ออกมาผสมผสาน แต่เงินบาทยังเสี่ยงเผชิญความผันผวนตามการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ย

บรรดาธนาคารกลางหลักโดยเฉพาะเฟด ยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2568 การส่งออกยังคงเป็นเครื่องจักรสำคัญหลักในการผลักดันเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าโลก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และการแบ่งขั้วทางการค้าที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ความแปรปรวนของสภาพอากาศและภัยธรรมชาติ ปริมาณการค้าที่ขยายตัวลดลงจากการใช้นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ และค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มผันผวน

ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.49-34.62 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 34.59/60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (16/1) ที่ระดับ 1.0293/95 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดี (15/1) ที่ระดับ 1.0310/11 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยวันนี้ (16/1) นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด และรายงานการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ล่าสุด เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับ ลดดอกเบี้ยของ ECB ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1.0279-1.0301 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0285/87 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน เปิดตลาดเช้าวันนี้ (16/1) ที่ระดับ 156.05/06 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (15/1) ที่ระดับ 156.87/90 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ วันนี้ (16/01) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดโตเกียว โดยนักลงทุนได้เข้าซื้อเงินเยนเพราะคาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ย สืบเนื่องจากที่คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ เปิดเผยว่าจะมีการหารือเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายสัปดาห์หน้า สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ณ เที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 155.73-155.75 เยน เทียบกับ 156.42-156.52 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก

ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ของสหรัฐ ได้แก่ ยอดค้าปลีกของสหรัฐ (16/01), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (16/01), ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือน ม.ค. (16/01), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐ (16/01), และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐ (17/01)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -6.4/-6.25 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -5.2/-3.75 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ