หุ้นไทยผันผวน จับตานโยบาย ‘ทรัมป์’ หลังรับตำแหน่ง 20 ม.ค.นี้

ตลาดหุ้น

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินหุ้นไทยวันนี้ ผันผวนแกว่งในกรอบ 1,340-1,360 จุด จับตาประเด็นสำคัญในวันจันทร์หน้า (20 ม.ค.) ซึ่งทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี และตลาดติดตามนโยบายด้านการค้า สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ CPALL-ERW

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด รายงานว่า SET แม้ผ่อนคลายแรงกดดดันลง หลังดอลลาร์ และ Bond Yield สหรัฐชะลอตัว อย่างไรก็ตาม คาดดัชนียังผันผวน โดยมีประเด็นสำคัญในวันจันทร์หน้า ซึ่งทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี และตลาดติดตามนโบายด้านการค้า ทำให้คาดกรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,360-1,365 จุด ส่วนกรอบล่างมีแนวรับอยู่ที่ 1,340-1,345 จุด หากต่ำกว่าเป็นลบต่อ

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัว โดยมีแนวต้านที่บริเวณ 1,400 จุด ทั้งนี้ แม้ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลงแย่กว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค จากกังวลเรื่องเสถียรภาพการเมืองและ ESG ของ บจ. รวมทั้งตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคและตัวเลขส่งออกรถยนต์ของไทยคาดมีแนวโน้มอ่อนแอลง แต่ยังมีความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลดค่าครองชีพในประเทศเพิ่มเติมจากรัฐบาล รวมถึงการเริ่มต้นมีผลบังคับใช้ของมาตรการ Easy E-Receipt ตั้งแต่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 68 จะช่วยกระตุ้นงบฯ 1Q68 ให้เติบโตได้

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศนั้นมองว่าแนวโน้มการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและการลดดอกเบี้ยของเฟดจะยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม จึงอาจจะไม่กดดันบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากนัก ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนําให้ “Selective Buy”

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม

กกพ. เสนอ กพช. ให้ปรับเงื่อนไขการอุดหนุนค่าไฟฟ้ารูปแบบ Adder และ FiT ของ SPP และ VSPP เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและลดค่าไฟฟ้าลด 17 สตางค์/หน่วย เหลือ 3.98 บาท/หน่วย ทั้งนี้ ปัจจุบันมี SPP และ VSPP 553 ราย มีกำลังการผลิตรวม 3,940MW

• ตลท.รับมาตรการซื้อขายหุ้นต้องทบทวนยกชุดหลังประกาศใช้เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะตลาดหุ้นไทย ส่วน Uptick Rule จะยกเลิกไปเลยต้องดูว่ามีประโยชน์ตลาดหุ้นปกติหรือไม่ อาจจะปรับไปใช้เฉพาะหุ้นรายตัวที่ราคาหุ้นผันผวนสวนทางกับพื้นฐานซื้อขาย

ADVERTISMENT

• รมช.คลังเผยรัฐบาลจะแจกเงินหมื่นเฟสสองให้แก่ผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติอายุ 60 ขึ้นไป ณ วันที่ 15 ก.ย. 67 โดยจะโอนเงินในวันที่ 27 ม.ค. และเช็กสิทธิ 22 ม.ค. ผ่านแอปทางรัฐ

• วันนี้ติดตามการเปิดตัวโครงการบ้านเพื่อคนไทย เปิดตัวบ้านและห้องตัวอย่าง และให้เริ่มลงทะเบียนผ่านเว็ปไซต์ เวลา 14.00 น. ประกอบด้วยพื้นที่บางซื่อ กม.11, เชียงราก, สถานีธนบุรี และสถานีเชียงใหม่

ADVERTISMENT

• Agoda เผยกรุงเทพฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีนสำหรับชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง อัตราการค้นหาที่พักพุ่งขึ้นสูงถึง 80%

• Microsoft แถลงให้คำมั่นจะลงทุนรวม 8 หมื่นล้านดอลลาร์ในการสร้าง Data Center AI ทั่วโลก โดยจะลงทุนในสหรัฐกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ หลัง CEO เข้าหารือเรื่อง AI และความมั่นคงทางไซเบอร์ร่วมกับว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และอีลอน มัสก์

• TSMC เผยผลประกอบการ 4Q67 สูงกว่าที่ตลาดคาด หนุนจากความต้องการชิป AI ที่ยังคงแข็งแกร่งและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้น แต่ Upside จำกัด โดยรอการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐ และนโยบายการค้าของสหรัฐ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 2 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้

1.หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากมาตรการ Easy E-Receipt ช่วงวันที่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568 และเงินหมื่นเฟส 2 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO CPALL TNP) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CBG OSP) และกลุ่มท่องเที่ยว (MINT)

2.นักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูง ซึ่งคาดมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield เกิน 3% เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ต แนะนำ AP KTB BBL PTT

3.หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YOY และ QOQ อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ เลือก OSP AMATA AU TIDLOR BCP

4.Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรใน 1) หุ้นที่ได้ Sentiment บวกหากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น แผนดึงเม็ดเงินลงทุน ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน Entertainment Complex และลดค่าครองชีพ-เพิ่มกำลังซื้อ แนะนำ กลุ่มนิคม (WHA AMATA) กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CRC) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT AWC) และ 2) หุ้นที่ราคา Laggard (เทรด PER 2568F ต่ำกว่า -1SD) แต่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มเติบโตดี แนะนำ BTG BEM BDMS

หุ้นแนะนำวันนี้

CPALL: 4Q67 คาดจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ โดยเติบโตทั้ง YOY และ QOQ จากเข้าสู่ High Season และยอดขายสาขาเดิมยังเติบโตแข็งแกร่ง อีกทั้งมาร์จิ้นยังกว้างขึ้นต่อเนื่องจากกมียอดขายสินค้ามาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลและการปรับลดดอกเบี้ยจะเพิ่ม Upside ให้กับประมาณการ

ERW: ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลงแรง 16%YTD หลังกังวลนักท่องเที่ยวจีนลดลงจากสถานการณ์นักแสดงจีนหายตัวไป ซึ่งมองสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว จนทำให้ปัจจุบันเทรด PER 68F ที่ 20 เท่า หรือราว -1 SD. ขณะที่ 4Q67 คาดกำไรปกติจะทรงตัว YOY (ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น) แต่จะยังเพิ่มขึ้นได้ QOQ (ปัจจัยฤดูกาล และการปรับปรุงห้องพักที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา ทาวเวอร์ 1 เสร็จสิ้น)