
ธนาคารกรุงไทยชี้ไทยเตรียมรับมือนโยบายทรัมป์ สินค้าจีนจ่อทะลัก กระทบผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคผลิต-ชัพพลายเชน แนะเร่งปรับตัวรับมือ
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย (TBA) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยภายใต้ Trump Impact ยอมรับว่ามีความเสี่ยงสูงขึ้น เนื่องจากทรัมป์เป็นคนที่คาดเดายาก และเป็นนักเจรจาต่อรองที่เก่ง ทำให้ตลาดเชื่อ ซึ่งที่ผ่านมาจีนได้เตรียมความพร้อมรับมือ เพราะคิดว่าจะไม่ฟื้นตัวเหมือนเดิม และเป็นการประคองตัว
ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นจะเห็นสินค้าจีนทะลักเข้ามาแน่นอน โดยเฉพาะสินค้าที่มีลักษณะคล้ายกัน และสามารถทดแทนกัน เป็นความท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) หรือแม้แต่ผู้ผลิตรายใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องเร่งปรับตัว เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน หากดูตัวอย่างจากการประกาศออกจากกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้ 6 ธนาคารใหญ่ของสหรัฐถอนตัวออกจากการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ทันที สะท้อนให้เห็นถึงกลไกตลาดที่ชัดเจนว่าสหรัฐเป็นเรือธงของโลก
โดยในส่วนของธนาคารกรุงไทย จะเห็นว่าธนาคารมีการสื่อสารถึงลูกค้าและผู้ประกอบการ ถึงการเปลี่ยนแปลงไปของโลกที่กำลังจะเกิดขึ้น และต้องทำตัวให้ยืดหยุ่น เพื่อต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดได้ ซึ่งกระบวนการในการปรับตัวจะต้องยอมรับ มีทั้งที่ปรับตัวทันและปรับตัวไม่ทัน ซึ่งกลุ่มที่ได้รับผลกระทบแน่นอน เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต เพราะต้องต่อสู้กับโรงงานผลิตของโลก และเกี่ยวเนื่องกับซัพพลายเชนของโลก รวมถึงสินค้าจีน ซึ่งอาจจะกระทบหลายเด้ง
“วันนี้เราเห็นความไม่แน่นอน ถนนที่ยาว เราจำเป็นต้องปรับตัว ปรับกระบวนการ เพราะการขึ้นภาษีคงไม่ใช่ 5% แต่เป็น 10% ถือว่าเยอะมาก ซึ่งผลจากการย้ายฐานการผลิตคงมาจาก 2 ส่วนคือ การย้ายจากนโยบายทรัมป์ และปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งการย้ายของนักลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง และรักษาเสถียรภาพการผลิต“