กรุงศรีฯ คาดเงินบาทซื้อขาย 34.25-34.80 บาท นักลงทุนเกาะติดนโยบายทรัมป์

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา คาดแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.25-34.80 บาทต่อดอลลาร์ ชี้นักลงทุนจะติดตามความชัดเจนด้านนโยบายการค้าสหรัฐ หลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีทรัมป์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.25-34.80 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.45 บาทต่อดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.42-34.84 บาทต่อดอลลาร์

โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 เดือนก่อนจะพลิกกลับมาแข็งค่า เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีดอลลาร์หยุดสถิติการพุ่งขึ้น 6 สัปดาห์ติดต่อกัน หลังดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเดือนธันวาคมของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ทำให้ตลาดเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดดอกเบี้ยได้อย่างน้อยหนึ่งครั้งในปีนี้และการชะลอตัวของแรงเทขายในตลาดพันธบัตรประเทศเศรษฐกิจหลักสะท้อนว่าก่อนหน้านี้นักลงทุนกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อของสหรัฐ

ขณะที่เงินเยนแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือน ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะขึ้นดอกเบี้ยเดือนนี้ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทย 5,539 ล้านบาท และ 10,386 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะติดตามความชัดเจนด้านนโยบายการค้าสหรัฐ หลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของประธานาธีบดีทรัมป์ในวันที่ 20 มกราคม หลังจากดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ตลาดกำลังรอการยืนยันว่าทรัมป์จะดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าเชิงรุกในช่วงเริ่มต้นวาระที่สองหรือไม่อย่างไร

โดยมีรายงานว่าทรัมป์อาจออกคำสั่งฝ่ายบริหาร (Executive Order) กว่า 1 ร้อยฉบับในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง อนึ่ง กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ มองว่าระดับการคาดการณ์ของผู้ร่วมตลาดดังกล่าวเปิดความเสี่ยงด้านขาลงของค่าเงินดอลลาร์ในระยะสั้น หากมีแนวโน้มว่าการบังคับใช้มาตรการทางการค้าในเบื้องต้นรุนแรงน้อยกว่า หรือล่าช้ากว่าที่นักลงทุนวิตกมาตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/2567

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ เราคาดว่ามีโอกาสสูงที่บีโอเจจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยจากระดับ 0.25% เป็น 0.50% ในวันที่ 24 มกราคม หลังมีสัญญาณว่าบีโอเจมั่นใจมากขึ้นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นสนับสนุนเป้าหมายเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพที่ 2% อย่างไรก็ดี ค่าเงินเยนได้รับข่าวการปรับดอกเบี้ยไปมากพอสมควรแล้ว ปฏิกิริยาของตลาดจึงขึ้นอยู่กับท่าทีด้านนโยบายในระยะข้างหน้า

สำหรับปัจจัยในประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะขยายตัวได้เกิน 3% และจะเป็นแรงส่งต่อเนื่องถึงปีถัดไป หากนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ที่ภาครัฐได้เร่งดำเนินการเห็นผลชัดเจน

ADVERTISMENT