
YLG มองทองดีดตัวระยะสั้น หลังทรัมป์ลดท่าทีความแข็งกร้าว แนะใช้เป็นจังหวะเก็งกำไร-เพิ่มโอกาสการลงทุนในตลาดฟิวเจอร์ส มองทองคำยังไปต่อได้ ที่เป้าหมาย 2,850-3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ทองคำแท่งในประเทศยังมีโอกาสไปถึง 50,000 บาท หากค่าเงินบาทอ่อนเหนือ 35 บ.ต่อดอลลาร์สหรัฐ
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เปิดเผยว่า ราคาทองคำล่าสุดเคลื่อนไหวแกว่งตัว Sideway Up ท่ามกลางโมเมนตัมแรงซื้อที่เข้ามาได้ดีในระยะสั้น แม้ว่าราคาได้ปรับลดลงมาทดสอบแนวรับที่ 2,690 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ในวันก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อรอจับตาการแถลงนโยบาย โดยเฉพาะนโยบายการค้า
ในระยะหลังจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาท่าทีของโดนัลด์ ทรัมป์ และคาดการณ์ว่าตลาดการลงทุนจะผันผวนมากขึ้น ทั้งนี้ ในพิธีสาบานตน นายทรัมป์ยังคงให้คำมั่นการกลับมาเพื่อสานต่อนโยบาย America First (อเมริกามาก่อน) และประเด็นสำคัญที่ตลาดจับตาอย่างต่อเนื่องคือนโยบายทางการค้า โดยเฉพาะการตั้งกำแพงภาษีนำเข้า ที่อาจไปเพิ่มความเสี่ยงในการเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อ จนทำให้เฟดไม่สามารถปรับลดดอกเบี้ยลงได้ตามแผน และกลับมากดดันทองคำในท้ายที่สุด
อย่างไรก็ดี จนถึงปัจจุบัน (22 ม.ค.) ราคาทองคำกลับปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าทรัมป์จะทยอยเปิดเผยแผนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าในแต่ละประเทศก็ตาม แต่แผนดังกล่าวนั้นมีความผ่อนคลายลงกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ เนื่องจากไม่ได้เป็นการใช้ Executive Order ในการประกาศใช้ฉุกเฉิน และไม่ได้ขึ้นภาษีแบบเหมารวมทุกประเทศ โดยเฉพาะกับจีนที่ล่าสุดทรัมป์ได้กล่าวว่ากำลังพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนอีก 10% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ซึ่งท่าทีดังกล่าวมีความแข็งกร้าวน้อยกว่าที่เคยหาเสียงเอาไว้ ว่าอาจขึ้นภาษีกับจีนมากถึง 60%
แม้ว่าการกลับมาของนายทรัมป์ จะสนับสนุนให้สินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความนิยมในระยะสั้น แต่ขณะเดียวกันการที่นายทรัมป์เคยได้กล่าวความประสงค์เอาไว้ว่า มีความต้องการเข้ายึดคลองปานามา-เกาะกรีนแลนด์ และอยากจะเปลี่ยนให้แคนาดากลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ทองคำจึงยังคงเป็นทางเลือกในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
สำหรับการถือครองในระยะยาว YLG จึงยังคงเป้าหมายทองคำที่ 2,850-3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขณะที่เป้าหมายของราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ อยู่ที่ระดับ 46,000-48,500 บาทต่อบาททองคำ (ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 34.00 บาทต่อดอลลาร์) ซึ่งหากค่าเงินบาทอ่อนค่าเหนือระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ จะทำให้ราคาทองคำแท่ง 96.5% มีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 50,000 บาทต่อบาททองคำ
ทั้งนี้ สำหรับการเคลื่อนไหวของทองคำในปีนี้ที่จะแกว่งตัวผันผวนขึ้นนั้น มองว่าสามารถใช้เป็นจังหวะเก็งกำไรสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น โดยสามารถใช้ 2,726-2,708 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เป็นแนวรับสำคัญ และใช้ 2,776-2,790 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เป็นแนวต้าน ส่วนทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มองกรอบการเคลื่อนไหวระยะสั้นที่โซน 43,500-44,900 บาทต่อบาททองคำ
นอกจากนี้ ในจังหวะที่ทองคำเคลื่อนไหวสลับทั้งบวกและลบ ยังเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าลงทุนในตลาดฟิวเจอร์ส ที่สามารถทำกำไรได้ทุกสภาวะตลาด โดยล่าสุดวายแอลจีได้ออกโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีกับ YLG Futures รับสิทธิใช้งาน Trading View Essential Plan ที่จะมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า 5 ด้าน 1.กราฟและอินดิเคเตอร์ครบครัน รวมถึง Volume Profile 2.เครื่องมือวาดรูปและฟีเจอร์ทางเทคนิค 3.การแจ้งเตือนราคา 4.ไอเดียเทรดจากคอมมิวนิตี้ 5.ไม่มีโฆษณาและอีกจำนวนมาก