
เงินบาทอ่อนค่า รอโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงในงาน WEF ที่เมืองดาวอส หลังเขาแถลงโปรเจ็กต์ใหม่ “Stargate” โครงการลงทุนราว 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2568 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (23/1) ที่ระดับ 34.86/87 อ่อนค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (22/1) ที่ระดับ 34.79/80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
โดยดอลลาร์สหรัฐมีการแข็งค่าขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี หลังสถานการณ์ตลาดการเงินของสหรัฐยังอยู่ในสถานะเปิดรับความเสี่ยง เนื่องจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีการเปิดเผยโปรเจ็กต์ใหม่ “Stargate” เป็นโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI
จุดประสงค์ของโปรเจ็กต์นี้คือการสร้าง Data Center เพื่อเป็นการรองรับการพัฒนา AI โดยแผนการนี้คาดว่าจะรักษาความเป็นผู้นำโลกในวงการเทคโนโลยีของสหรัฐไว้ได้ เม็ดเงินลงทุนในแผนการนี้มีมูลค่าราว 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ยังคาดว่าจะเกิดการจ้างงานในสหรัฐมากขึ้นกว่าแสนตำแหน่งและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กับทั้งโลก นอกจากนี้ตลาดยังจับตาดูแถลงการณ์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ที่เมืองดาวอส
ด้านปัจจัยภายในประเทศ วันนี้ (23/1) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดเผยว่ามูลค่าการส่งออกของไทยในเดือน ธ.ค. ปี 2567 มีการขยายตัวขึ้นอยู่ที่ 8.7% ซึ่งมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 24,765.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ในด้านการส่งออกของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มีการขยายตัวอยู่ที่ 6.0% สินค้าที่มีการขยายตัวมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน ได้แก่ ยางพารา อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกขยายตัวเกิดจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค่าที่เพิ่มขึ้น และภาพรวมการส่งออกไปยังกลุ่มตลาดต่าง ๆ ขยายตัวอยู่ที่ 12.0% ส่วนใหญ่มีขยายตัวที่ตลาดสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป
นอกจากนี้นายพิชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าร่วมงาน World Economic Form (WEF) ที่จัดขึ้นที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการปรับตัวของประเทศไทยเรื่องการเติบโตของเทคโนโลยี AI นายพิชัยมีความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะปรับตัวให้ทันกับยุคเทคโนโลยี AI และยุคเศรษฐกิจดิจิทัลและพร้อมที่จะพัฒนาบุคลากรภายในประเทศให้มีทักษะในการประยุกต์ใช้ AI
นายพิชัยยังกล่าวว่าต้องการดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพสูงในด้านวิศวกรและเทคโนโลยีให้เข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งยังกล่าวว่าพร้อมร่วมมือกับทุกประเทศเพื่อเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลไปพร้อมกัน
ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 33.86-34.02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 34.01/02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร เปิดตลาดเช้าวันนี้ (23/1) ที่ระดับ 1.0408/11 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดี (22/1) ที่ระดับ 1.0449/51 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยวันนี้ยูโรปรับตัวอยู่ในกรอบ ตลาดรอจับตาดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคการ PMI ของประเทศเยอรมนีและฝรั่งเศสที่จะมีประกาศในวันศุกร์นี้ (23/1) เพื่อเป็นการประเมินทิศทางนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป
นอกจากนี้ปัจจัยที่จับตาเพิ่มเติมคือการเดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจากยุโรปจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีประกาศเพิ่มเติมในเดือน ก.พ. ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1.0391-1.0415 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และเปิดตลาดที่ระดับ 1.0404/05 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน เปิดตลาดเช้าวันนี้ (23/1) ที่ระดับ 156.40/41 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (22/1) ที่ระดับ 155.69/72 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ วันนี้ค่าเงินเยนยังคงปรับตัวอยู่ในกรอบ ตลาดยังรอจับตาตัวเลขเงินเฟ้อ CPI และรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคการ PMI ของเดือน ม.ค.ที่จะมีประกาศในวันศุกร์นี้ (23/1) ช่วงเช้า เพื่อป็นการประเมินทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น BOJ ซึ่งจะรู้ผลการประชุมในวันศุกร์นี้ (23/1) ด้วยเช่นกัน
นักลงทุนมีการคาดการณ์ว่า BOJ มีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยในการครั้งนี้ และในทั้งปีอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้ง ครั้งละ 25 bps ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนอยู่ในกรอบระหว่าง 156.29-156.75 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 156.48/51 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ของสหรัฐ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (23/1), ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน ม.ค.จาก S&P Global (24/1), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือน ม.ค. จาก S&P Global (24/1), ยอดขายบ้านมือสองเดือน ธ.ค. (24/1), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือน ม.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (24/1)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -6.35/-6.2 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -3.6/-2.75 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ