
คอลัมน์ : เช็กกระแสหุ้น
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (20-24 ม.ค.) ทรงตัว ฟื้นได้ แต่ไม่ไกล รอปัจจัยความเชื่อมั่น
“ณัฐพล คำถาเครือ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ในระดับทรงตัว โดยมีจังหวะการปรับตัวขึ้นตอบรับผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ของกลุ่มธนาคารที่ประกาศออกมาดี ขณะที่ช่วงแรกที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ การตอบรับไม่รุนแรงอย่างที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นได้ในช่วงต้นสัปดาห์
ขณะที่ท้ายสัปดาห์มีการปรับลงเช่นเดิม โดยตลาดยังรอปัจจัยภายในประเทศที่ส่งผลในด้านความเชื่อมั่น ทั้งผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในกลุ่ม Real Sector ที่จะทยอยประกาศมากขึ้นจากนี้ เช่น SCC, PTTEP รวมถึงการรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2567 ที่จะประกาศในวันที่ 19 ก.พ. 2568 ดังนั้นจึงทำให้ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ที่ปรับขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน 1,360-1,370 จุด มีจังหวะเทขายออกมา โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ
ขณะที่มองไปในสัปดาห์ข้างหน้า (27-31 ม.ค.) “ณัฐพล” กล่าวว่า ประเมิน SET Index ไซด์เวย์อัพ แนวรับ 1,335-1,340 จุด แนวต้าน 1,360-1,365 จุด โดยต้องติดตามปัจจัยสำคัญจากต่างประเทศที่มีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 29 ม.ค.
ซึ่งหลังจากที่ทรัมป์กดดันให้เฟดลดดอกเบี้ย ทำให้คาดว่าเฟดมีโอกาสที่จะส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ได้มากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยบวกให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market)
ขณะที่ช่วงสัปดาห์ข้างหน้านี้ ตลาดหุ้นหลายประเทศหยุดทำการ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน อาจจะทำให้เม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาเก็งกำไรที่ตลาดหุ้นไทยได้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศจะมีการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 จะเป็นปัจจัยสนับสนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีก, ไฟแนนซ์, อาหาร-เครื่องดื่ม โดยจะทำให้เงินสะพัดในระบบกว่า 4 หมื่นล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไรจากหุ้นกลุ่มที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/2567 จะออกมาดี เช่น ค้าปลีก แนะนำ CPALL, CPAXT กลุ่มไฟแนนซ์ แนะนำ SAWAD รวมถึงกลุ่ม Yield Play ที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง เช่น กลุ่ม REIT แนะนำ CPNREIT, LHHOTEL เป็นต้น