
บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินหุ้นไทยวันนี้ กังวล DeepSeek AI ของจีน สั่นคลอนบริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่ของสหรัฐ หลังกดดันดัชนี Nasdaq ลงแรงเมื่อคืน และสร้าง Sentiment ลบ ต่อ SET ผ่านกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ให้ปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,325-1,330 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด รายงานว่า ความฟีเวอร์ของ DeepSeek AI ของจีน ซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่า ChatGPT สั่นคลอนบริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่ของสหรัฐ โดยกดดันดัชนี Nasdaq ลงแรงเมื่อคืน และสร้าง Sentiment ลบ ต่อ SET ผ่านกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ให้ปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1325-1330 จุด ซึ่งเป็นจุดติดตามสําหรับลุ้นฟื้นตัวกลับ ส่วนกรอบบนถูกจํากัดบริเวณแนวต้าน 1,345-1,355 จุด
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม
DeepSeek ของจีนเปิดตัวโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าแชตบอต ระดับโลกอย่าง ChatGPT ของ OpenAI โดยใช้ต้นทุนน้อยกว่าและทำงานบนชิปที่มีขีดความสามารถต่ำกว่า อีกทั้งยังเป็นแอปพลิเคชั่นฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบน Apple App Store ในสหรัฐ
• รมช.คลังประเมินว่า โครงการแจกเงินหมื่นเฟสสองมูลค่ารวม 3 หมื่นล้านบาท จะช่วยหนุน GDP ราว 0.1% และจะเป็นโมเมนตัมที่ดีในการเตรียมความพร้อมของเศรษฐกิจไทย และยืนยันว่าเฟสที่สามมูลค่า 1.6แสนล้านบาท จะสามารถแจกได้ภายในไตรมาส 2 ปี’68
• รมว.คลังเชื่อเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะสามารถขยายตัวได้เกิน 3% เนื่องจากมีโครงการขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ไปถึงต้นปีหน้า และจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างต่อเนื่อง
• กระทรวงพลังงานเผยแผนงานปี 2568 โดยวางกรอบ 5 นโยบายสำคัญ หาแหล่งพลังงานใหม่ในประเทศ, จัดการระบบพลังงานให้มีประสิทธิภาพ, ส่งเสริมการลงทุนด้านพลังงาน, มาตรการพลังงานสีเขียว และการสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานรูปแบบใหม่
• ปลัดพลังงานเผยแนวทางลดค่าไฟฟ้าต่ำกว่า 4 บาท/หน่วย อยู่ระหว่างหารือด้านกฎหมายเพื่อปรับ Adder และ FiT ตามที่ กกพ. เสนอ คาดจะได้เห็นแผนภายใน 2-3 เดือนนี้ ส่วนการชะลอรับซื้อพลังงานหมุนเวียนเฟสสอง 3,600MW อยู่ระหว่างพิจารณาโดยกฤษฎีกาว่าจะสามารถเดินหน้าส่วน 1,500MW ต่อได้หรือทบทวนการประมูลใหม่ทั้งหมด
• กรมขนส่งทางรางเผยในวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้าตามมาตรการลดฝุ่นสูงถึง 1,549,662 คน/เที่ยว เพิ่มขึ้น 60.9% เทียบกับค่าเฉลี่ยวันอาทิตย์ในสามสัปดาห์ของเดือนนี้
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน
มอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,400 จุด กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 1 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
1.หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากการเข้าสู่บรรยากาศจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีน อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐจะเริ่มมีผลบังคับใช้ เช่น นำค่าซื้อสินค้ามาลดหย่อนภาษี (Easy E-Receipt) ในช่วง 16 ม.ค.-28 ก.พ. 68 และแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุในวันที่ 27 ม.ค.นี้ แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO CPALL TNP) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CBG OSP) กลุ่มท่องเที่ยว (MINT AOT)
2.นักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูงซึ่งคาดมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield เกิน 3% เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุน แนะนำ AP KTB BBL PTT
3.หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ เลือก ADVANC TRUE AMATA AWC AU ERW
4.Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรในหุ้น Mid-Small Cap. ที่ราคาหุ้นปรับลง YTD มากกว่าตลาด แต่ 4Q67 และปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตดีและมีฐานะการเงินแกร่ง เลือก AMATA AU BCH BLA TIDLOR
หุ้นแนะนำวันนี้
TRUE : มองแนวโน้มกําไรที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยผลักดันราคาหุ้นให้ปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง โดย 4Q67 คาดมีกําไรปกติ 3.7 พันล้านบาท ฟื้นตัวจากขาดทุนปกติ 702 ล้านบาท ใน 4Q66 และเพิ่มขึ้น 23.9%QoQ ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะหนุนให้ปี 2567 คาดพลิกมีกําไรปกติ 9.5 พันล้านบาท และจะยังรายงานกําไรปกติที่แข็งแกร่งขึ้น YoY ใน 1Q68
CPALL: 4Q67 คาดจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ โดยเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากเข้าสู่ High Season และยอดขายสาขาเดิมยังเติบโตแข็งแกร่ง อีกทั้งมาร์จิ้นยังกว้างขึ้นต่อเนื่องจากกมียอดขายสินค้ามาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มเติมของรัฐบาลและการปรับลดดอกเบี้ยจะเพิ่ม Upside ให้กับประมาณการ