เปิดสถิติพร้อมเพย์ปี’67 เดือน ธ.ค. ยอดพุ่ง 2,096 ล้านรายการ

บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด หรือ NITMX ผู้พัฒนาและให้บริการระบบการชำระเงิน “พร้อมเพย์” เปิดสถิติปี 2567 มียอดลงทะเบียนถึง 79.45 ล้านเลขหมาย ชี้เดือนธันวาคม 2567 ยอดทำธุรกรรมพุ่ง 2,096 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 16% มูลค่า 4,515 ล้านบาท ระบุ วันพฤหัสบดี-ศุกร์ ครองแชมป์ยอดทำธุรกรรมสูงสุด เหตุแคมเปญตลาด-จ่ายเงินเดือน-ค่าใช้จ่าย หนุนยอดทำธุรกรรม ด้าน Cross-Border QR Payment ยอดโต 176%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด หรือ NITMX ผู้พัฒนาและให้บริการระบบการชำระเงิน และการโอนเงินระหว่างธนาคารของประเทศไทย ตามที่ได้รับมอบหมายให้เป็น Interbank Transaction Management and Exchange (ITMX) ของประเทศไทย เชื่อมโยงระบบการชำระเงินกับต่างประเทศ เผยข้อมูลสถิติการใช้งานระบบพร้อมเพย์ตลอดปี 2567 ซึ่งแสดงถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในด้านธุรกรรมดิจิทัลทั้งในประเทศและข้ามพรมแดน ตอกย้ำบทบาทสำคัญในการผลักดันประเทศเข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มตัว

การใช้งานพร้อมเพย์ในประเทศยังแรงต่อเนื่อง

ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 เปิดสถิติจำนวนการลงทะเบียนพร้อมเพย์ปัจจุบันแตะไปถึง 79.45 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นการลงทะเบียนของบุคคลธรรมดา 79.09 ล้านเลขหมาย และของนิติบุคคลอีก 0.36 ล้านเลขหมาย โดยในเดือนธันวาคมเพียงเดือนเดียว มีธุรกรรมโอนเงินและชำระเงินผ่านระบบพร้อมเพย์สูงถึง 2,096 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 4,515 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 9%

สถิติที่สำคัญในแต่ละเดือน

      1. มกราคม : 31 ม.ค. 2567 – ธุรกรรมสูงสุด 75,666,646 รายการ (วันพุธ)
      2. กุมภาพันธ์ : 29 ก.พ. 2567 – ธุรกรรมสูงสุด 77,505,853 รายการ (วันพฤหัสบดี)
      3. มีนาคม : 1 มี.ค. 2567 – ธุรกรรมสูงสุด 80,017,010 รายการ (วันศุกร์)
      4. เมษายน : 1 เม.ย. 2567 – ธุรกรรมสูงสุด 75,227,701 รายการ (วันจันทร์)
      5. พฤษภาคม : 31 พ.ค. 2567 – ธุรกรรมสูงสุด 77,851,817 รายการ (วันศุกร์)
      6. มิถุนายน : 1 มิ.ย. 2567 – ธุรกรรมสูงสุด 75,853,403 รายการ (วันเสาร์)
      7. กรกฎาคม : 1 ก.ค. 2567 – ธุรกรรมสูงสุด 81,821,247 รายการ (วันพฤหัสบดี)
      8. สิงหาคม : 1 ส.ค. 2567 – ธุรกรรมสูงสุด 81,171,758 รายการ (วันพฤหัสบดี)
      9. กันยายน : 30 ก.ย. 2567 – ธุรกรรมสูงสุด 86,460,488 รายการ (วันจันทร์)
      10. ตุลาคม : 31 ต.ค. 2567 – ธุรกรรมสูงสุด 83,270,705 รายการ (วันพฤหัสบดี)
      11. พฤศจิกายน : 1 พ.ย. 2567 – ธุรกรรมสูงสุด 86,781,490 รายการ (วันศุกร์)
      12. ธันวาคม : 1 ธ.ค. 2567 – ธุรกรรมสูงสุด 83,308,906 รายการ (วันอาทิตย์)

จากสถิติของปี 2567 พบว่า วัน Peak Day มักเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ โดยวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งตรงกับวันศุกร์ ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดธุรกรรมผ่านระบบพร้อมเพย์สูงสุดของปีที่ 86,781,490 รายการ การวิเคราะห์ข้อมูลยังชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มพฤติกรรมการใช้งานที่น่าสนใจในวันดังกล่าว

โดยวันศุกร์ต้นเดือนมักเป็นช่วงเวลาที่มีการจ่ายเงินเดือนพนักงานหรือโบนัส รวมถึงการโอนเงินให้ครอบครัว และการชำระค่าใช้จ่ายประจำเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าบริการอื่น ๆ นอกจากนี้ เดือนพฤศจิกายนยังเป็นช่วงเวลาของแคมเปญส่งเสริมการขายที่สำคัญ เช่น 11.11 Online Shopping Festival ซึ่งกระตุ้นการใช้จ่ายผ่าน QR Code และการชำระเงินแบบดิจิทัลอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังสะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มุ่งเน้นความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยในการทำธุรกรรมในยุคดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ธุรกรรม Cross-Border QR Payment โตพุ่ง 176%

ด้านธุรกรรมข้ามพรมแดนผ่าน Cross-Border QR Payment ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถสแกน QR Code เพื่อชำระเงินได้สะดวก พบว่ามียอดใช้จ่ายรวม 333 ล้านบาท ในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 176% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยประเทศที่ใช้จ่ายมากที่สุด ได้แก่ :

ADVERTISMENT

• อันดับ 1 : มาเลเซีย (178.54 ล้านบาท)
• อันดับ 2 : อินโดนีเซีย (39.96 ล้านบาท)
• อันดับ 3 : สิงคโปร์ (29.65 ล้านบาท)

ADVERTISMENT

NITMX พร้อมรองรับธุรกรรมสูงสุดถึง 10,000 รายการต่อวินาที

ปัจจุบัน ระบบพร้อมเพย์สามารถรองรับธุรกรรมได้สูงสุด 10,000 รายการต่อวินาที เพื่อตอบรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงเวลาปกติ ระบบรองรับเฉลี่ยที่ 2,000 รายการต่อวินาที และเพิ่มขึ้นเป็น 2,600 รายการต่อวินาทีในช่วงที่มีปริมาณธุรกรรมหนาแน่น

NITMX เดินหน้าพัฒนาการชำระเงินดิจิทัลครบวงจร

ในอนาคต NITMX ตั้งเป้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกรรมดิจิทัล และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่สังคมไร้เงินสดที่มั่นคง ปลอดภัย และสะดวกยิ่งขึ้น