
วิจัยกรุงศรี ประเมินการส่งออกในปี’68 ขยายตัวชะลอลงเหลือ 2.7% หลังเผชิญแรงกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้าง-ความตึงเครียดทางการค้า เผยในปี’67 มูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะ 3 แสนล้านดอลลาร์ เติบโต 5.4% จากปีก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระบุว่า การส่งออกในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตชะลอลงสู่ 2.7% จากปีก่อนที่ขยายตัวดีกว่าคาด ท่ามกลางความท้าทายจากความตึงเครียดทางการค้าที่อาจรุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ ส่งออกเดือนธันวาคมขยายตัว 8.7% หนุนภาพรวมปี 2567 โตเกินคาดที่ 5.4% ส่วนปี 2568 คาดโตชะลอลงเหลือ 2.7% มูลค่าส่งออกในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 24.8 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ที่ 8.7% YOY ตามการเติบโตของการส่งออกสินค้าทุนและวัตถุดิบของไทยในเกือบทุกหมวด อีกทั้งยังขยายตัวในเกือบทุกตลาดส่งออกสำคัญ
สำหรับภาพรวมในปี 2567 มูลค่าส่งออกรวมแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3 แสนล้านดอลลาร์ และขยายตัว 5.4% จากปีก่อน
อย่างไรก็ดี การส่งออกในเดือนธันวาคมที่เติบโตดีต่อเนื่องจากเดือนพฤศจิกายน (+8.2% YOY) ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากการเร่งนำเข้าของประเทศคู่ค้าเพื่อเตรียมรองรับกับความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ในระยะข้างหน้า
สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยปี 2568 วิจัยกรุงศรีคาดการณ์ว่าจะเติบโตชะลอลงสู่ 2.7% โดยยังเผชิญแรงกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้าง อาทิ การลดลงของขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้า ประกอบกับความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางการค้าที่อาจรุนแรงขึ้น รวมทั้งการแข่งขันกับสินค้าจีนที่คาดว่าจะหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดโลกเพิ่มเติม หากสหรัฐ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยยังได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน (ล่าสุด IMF คาดจะเติบโต 3.3% จาก 3.2% ในปี 2567) รวมถึงการเติบโตในภาคเศรษฐกิจดิจิทัลและกิจกรรมภาคท่องเที่ยวซึ่งจะช่วยกระตุ้นความต้องการสินค้าในบางรายการ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และสินค้าเกษตร เป็นต้น