ออมสินอุ้ม ‘น็อนแบงก์’ แก้หนี้อัดซอฟต์โลน 5 หมื่นล้าน หั่นดอกเบี้ย-ค่างวด

คลัง-ธปท. เดินหน้าโครงการแก้หนี้ “คุณสู้-เราช่วย” เฟสสอง ดึง 7 น็อนแบงก์เข้าร่วมมาตรการเร่งสรุปหลักเกณฑ์ เผยยึดเกณฑ์หนี้เสียไม่เกิน 1 ปี ลูกหนี้บัตรกดเงินสด-จำนำทะเบียนรถเฮ ! เตรียมลงทะเบียนร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ “ลดค่างวด-ลดดอกเบี้ย” คลังสั่งแบงก์ออมสินเตรียมซอฟต์โลน 5 หมื่นล้าน สนับสนุนมาตรการปล่อยกู้ผู้ประกอบการน็อนแบงก์ จูงใจเข้าร่วมโครงการ ขณะที่รองนายกฯ “พิชัย” เตรียมหารือแบงก์ขยายขอบเขตแก้หนี้เสียเกิน 1 ปีในเฟสต่อไป จับตาตัวเลขเอ็นพีแอลขาขึ้น ทั้งแบงก์-น็อนแบงก์ปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ถดถอย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 11 ธ.ค. 2567 ได้มีมติเห็นชอบมาตรการแก้ปัญหาหนี้ของลูกค้าธนาคารพาณิชย์ ภายใต้ชื่อโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยสินเชื่อบ้าน รถ และ SMEs ที่มีวงเงินไม่สูง และต้องมีสถานะเป็นหนี้เสียไม่เกิน 1 ปี โดยให้เข้ามาลงทะเบียนปรับโครงสร้างหนี้แบบ “ลดค่างวด” และ “พักดอกเบี้ย” เป็นระยะเวลา 3 ปี

โดยค่างวดที่จ่ายจะตัดชำระเงินต้นทั้งหมด ขณะที่ดอกเบี้ยที่พักไว้ตลอด 3 ปี จะได้รับการ “ยกเว้น” หากลูกหนี้สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ตลอดระยะเวลาของมาตรการ โดยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแผนที่จะขยายเฟสสองในการช่วยแก้หนี้ให้กับกลุ่มลูกหนี้น็อนแบงก์ด้วย

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการแก้หนี้ เฟส 2 ที่จะครอบคลุมไปถึงกลุ่มลูกหนี้ของผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (น็อนแบงก์) ปัจจุบันอยู่ในช่วงการกำหนดรายละเอียด ซึ่งอยากให้ทุกฝ่ายเข้าร่วม

เพราะเป็นมาตรการที่ช่วยแก้หนี้ให้แก่ประชาชน ส่วนแนวทางอาจจะมีเงื่อนไข หรือหลักเกณฑ์ที่แตกต่างกันไปจากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ที่เป็นในส่วนลูกหนี้ของแบงก์เล็กน้อย ทั้งนี้ คาดจะออกประกาศรายละเอียดความชัดเจนได้ในเร็ว ๆ นี้

คลังเล็งขยายแก้ NPL เกิน 1 ปี

ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่าประเทศไทยยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือน แต่คาดว่าสิ้นปีนี้ระดับหนี้ครัวเรือนจะลดลงได้ เช่นเดียวกับหนี้เสีย (NPL) จากมาตรการที่ภาครัฐได้ดำเนินการไป เช่น โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่งขณะนี้ยังเปิดลงทะเบียนจนถึงวันที่ 28 ก.พ.นี้

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ ในระยะต่อไปมีแนวคิดที่จะแก้หนี้ให้กับกลุ่มที่มีหนี้เสียมากกว่า 1 ปีขึ้นไป ซึ่งกลุ่มนี้มีจำนวนมาก และแก้ได้ยาก จึงคิดว่าต้องใช้วิธีที่แตกต่างออกไป โดยมองว่ากลุ่มนี้หากช่วยลดดอกเบี้ยคงไม่พอ อาจมีการพิจารณาตัดต้นให้ด้วยหรือไม่ ซึ่งต้องหารือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งหมด รวมถึงสถาบันการเงิน หากแก้หนี้ได้ก็จะเป็นประโยชน์กับสถาบันการเงินด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังต้องดูตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 4/2567 หากเศรษฐกิจออกมาในทิศทางที่ดี ก็เชื่อว่าการหารือร่วมกับสถาบัน การจะเข้าใจกันก็มากขึ้น

ADVERTISMENT

สำหรับนโยบายการเงิน รมว.คลังยืนยันว่ายังอยากเห็นดอกเบี้ยที่ถูกลง เพราะประชาชนมีหนี้ทั้งระบบกว่า 16 ล้านล้านบาท หนี้รัฐบาลอีกกว่า 10 ล้านล้านบาท หากดอกเบี้ยลดลงไป 1% หนี้จะลดไป 1 หมื่นล้านบาท หนี้ 10 ล้านล้านบาท ก็ลดได้ 1 แสนล้านบาท ก็ได้แต่ภาวนา ก็หวังว่าจะได้เห็นดอกเบี้ยลดลงไปอีก

7 น็อนแบงก์ร่วมแก้หนี้

แหล่งข่าวจากผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (น็อนแบงก์) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แนวทางมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระยะที่ 2 ที่จะขยายมาที่ลูกหนี้ของผู้ประกอบธุรกิจน็อนแบงก์นั้น อยู่ระหว่างสรุปรายละเอียดเงื่อนไขของมาตรการ

อย่างไรก็ดี แนวทางเบื้องต้นจะคล้ายกับมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” ที่แก้หนี้กับแบงก์พาณิชย์ แต่ในส่วนของน็อนแบงก์เน้นการแก้ไขปัญหาในกลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) ซึ่งรวมถึงบัตรกดเงินสด และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถด้วย

“หลักการจะล้อไปกับ “คุณสู้ เราช่วย” ที่เน้นลดภาระหนี้ ลดการผ่อนชำระค่างวด โดยอัตราการผ่อนชำระจะเป็นขั้นบันได (Step Up) เช่นเดียวกับมาตรการเฟสแรก โดยระหว่างลูกค้าเข้าโครงการห้ามก่อหนี้เพิ่มเด็ดขาด หากลูกค้าทำผิดเงื่อนไขหรือปฏิบัติไม่ได้ สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจะถูกถอนคืน

อย่างไรก็ดี สิ่งที่แตกต่างคือ น็อนแบงก์จะไม่สามารถแขวนอัตราดอกเบี้ย หรือพักดอกเบี้ยได้ แต่โดยหลักการคือ ช่วยลูกค้าให้จ่ายค่างวดสบายขึ้น อาจจะลดดอกเบี้ยให้ลูกค้า แต่ถ้าลูกค้าทำไม่ได้ตามเกณฑ์สิทธิประโยชน์ก็หายหมด”

สำหรับเกณฑ์ลูกหนี้เข้าร่วมโครงการ ก็จะคล้ายกับที่ทำกับธนาคารพาณิชย์ คือต้องเป็นลูกหนี้ที่ทำสัญญากู้ก่อน 1 มกราคม 2567 และต้องเป็นหนี้ค้างชำระเกินกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 365 วัน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 (Cut of Date)

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้ประกอบการน็อนแบงก์เข้าร่วมโครงการมีประมาณ 7 รายด้วยกัน อาทิ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC, บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน), บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ จำกัด เป็นต้น

อัดซอฟต์โลน 5 หมื่นล.จูงใจ

แหล่งข่าวกล่าวว่า เนื่องจากน็อนแบงก์ไม่ได้มีการนำส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) เหมือนกับธนาคารพาณิชย์ ดังนั้น จึงไม่มีเม็ดเงินที่จะมาช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการน็อนแบงก์ ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้าที่เป็นเอ็นพีแอลตามเงื่อนไขที่กำหนด

ดังนั้น ทางกระทรวงการคลังจึงพิจารณาจะให้ธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ 0.01% (ซอฟต์โลน) ให้กับผู้ประกอบการน็อนแบงก์ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าจะใช้วงเงินราว 50,000 ล้านบาท

“ซอฟต์โลนก็จะเหมือนเงินไม่มีต้นทุน เพราะดอกเบี้ยถูกมาก เป็นการจูงใจน็อนแบงก์ให้ร่วมแก้หนี้”

อย่างไรก็ดี มาตรการแก้หนี้ในส่วนของน็อนแบงก์จะช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนได้ไม่มาก เพราะตอนนี้ลูกหนี้ส่วนใหญ่ไหลออกไปกู้นอกระบบกันไม่น้อย เนื่องจากสถาบันการเงินในระบบไม่อยากปล่อยกู้ หรือปล่อยยากขึ้น ซึ่งปีนี้คาดว่าสินเชื่อน็อนแบงก์จะโตลดลง ดังนั้น ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่หนี้ครัวเรือนอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาหนี้นอกระบบด้วย

NPL น็อนแบงก์ขยับขึ้น

ขณะที่นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลมีแนวโน้มขยับเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของน็อนแบงก์และธนาคารพาณิชย์

เนื่องจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวไม่ทั่วถึง และรายได้ที่ยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มน็อนแบงก์ ซึ่งเป็นลูกค้ามีรายได้ไม่สูง ยังคงเจอแรงกดดันจากรายได้ที่ไม่ฟื้นตัว และประเด็นปัญหาคุณภาพสินทรัพย์เริ่มชัดเจนกว่าในอดีต

โดยตัวเลข NPL สินเชื่อส่วนบุคคลของน็อนแบงก์ ณ ไตรมาสที่ 3/67 อยู่ที่ 20,394 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 66% ของ NPL สินเชื่อส่วนบุคคลทั้งหมด จากสิ้นปี 2566 ที่อยู่ 19,667 ล้านบาท

ขณะที่หนี้เสียบัตรเครดิตน็อนแบงก์ ไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 6,393 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว 48% ของหนี้เอ็นพีแอลสินเชื่อบัตรเครดิตทั้งหมด จากสิ้นปี 2566 ที่อยู่ 5,861 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 46% ของหนี้เอ็นพีแอลสินเชื่อบัตรเครดิตทั้งหมด

นางสาวกาญจนากล่าวอีกว่า การขยายมาตรการแก้หนี้ไปในกลุ่มน็อนแบงก์ก๊อก 2 น่าจะช่วยเหลือลูกหนี้ได้ครอบคลุมมากขึ้น เพราะเฟสแรกลูกหนี้ที่ไม่ใช่ลูกหนี้แบงก์เข้าร่วมไม่ได้ ขณะที่ประเด็นปัญหาเรื่อง Asset Quality ไม่ได้มีแค่ธนาคารพาณิชย์เท่านั้น น็อนแบงก์ก็มีเช่นกัน มาตรการนี้ก็จะช่วยขยายการช่วยเหลือได้มากขึ้น