
“DeepSeek” โมเดล AI จากจีนทุบหุ้นชิป-หุ้นเทคร่วงทั่วโลก Nvidia เจ็บหนักสุด ดิ่งแรง -16.97% มาร์เก็ตแคปหายเกือบ 6 แสนล้านเหรียญ ทำสถิติสูญมูลค่าตลาดภายในวันเดียวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์หุ้นโลก
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2025 ตลาดหุ้นโลกปั่นป่วนจากกระแสความร้อนแรงของ DeepSeek (ดีปซีก) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากจีน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิป เริ่มจากฝั่งบริษัทชิปญี่ปุ่นที่เปิดตลาดก่อน ก่อนจะออกฤทธิ์ให้เห็นชัดเจนที่ตลาดหุ้นสหรัฐ
ดัชนี Nasdaq ซึ่งเป็นดัชนีตลาดที่เน้นหุ้นบริษัทเทคในสหรัฐปิดตลาดร่วงลง -3.07% ขณะที่ S&P500 ดัชนีรวมหุ้นใหญ่ 500 ตัวในตลาดสหรัฐร่วงลง -1.46% ส่วน PHLX Semiconductor Sector (SOX) ดัชนีที่ติดตามผลการดำเนินงานหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุด 30 บริษัทแรกในตลาดสหรัฐ ร่วงลง -9.15%%
หุ้น Nvidia ดิ่งหนัก -16.97%
Nvidia (อินวิเดีย) บริษัทผู้ผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิก และชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI Chip) จากสหรัฐที่เคยเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกเจ็บหนักสุด โดยราคาหุ้น NVDA ซึ่งจดทะเบียนในตลาด Nasdaq ดิ่งแรง 16.97% มาร์เก็ตแคปหายไปราว 589,773 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 19,972,660 ล้านบาท) นับเป็นการสูญเสียมูลค่าตลาดภายในวันเดียวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์หุ้นโลก (Biggest Single-Day Market Cap Losses)
ขณะที่หุ้นของบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมชิปก็ร่วงลงยกแผง ทั้ง Broadcom (บรอดคอม) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปอีกรายของสหรัฐราคาหุ้นดิ่งลง 17.4% ส่วน ASML (อาเอสเอ็มแอล) ผู้ผลิตเครื่องผลิตชิปจากเนเธอร์แลนด์ ราคาหุ้นร่วงลง 6.7% ขณะที่ Constellation Energy (คอนสเทลเลชัน เอเนอร์จี) ซึ่งกำลังวางแผนสร้างกำลังการผลิตพลังงานที่สำคัญสำหรับ AI หุ้นดิ่งแรงมากกว่า 20%
AI จีนทุบตลาดสหรัฐ
สาเหตุที่การผงาดขึ้นมาของโมเดลปัญญาประดิษฐ์ DeepSeek ของจีนทุบหุ้นชิปทั่วโลกลงนั้น เนื่องจากข้อถกเถียงในวงการเทคที่ว่า DeepSeek ใช้ชิป H800 ของ Nvidia แค่ 2,000 ชิ้น ก็สามารถสร้างโมเดลภาษาสำหรับ AI ได้ทัดเทียมกับปัญญาประดิษฐ์ของสหรัฐได้แล้ว
สะท้อนนัยสำคัญว่า การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่มีสมรรถภาพสูงอาจไม่จำเป็นต้องใช้ชิปที่ก้าวหน้าขั้นสูงสุด หรือ “สินค้าตัวท็อป” ของบริษัทชิปต่าง ๆ อย่างเช่นที่ Nvidia มีชิป Blackwell เป็นตัวท็อป แต่ DeepSeek ใช้เพียง H800 ซึ่งเป็นตัวรองลงมา จึงสร้างความกังวลให้แก่นักลงทุนว่าเทคโนโลยีชิปรุ่นใหม่ ๆ อาจไม่ขายดีอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
DeepSeek กดดัน Nvidia
นายสิทธิชัย ดวงรัตนฉายา นักกลยุทธ์อาวุโสตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ผลกระทบจาก DeepSeek ถือเป็นความเสี่ยงหนึ่งที่จะทำให้กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม AI แย่ลง เพราะอาจทำให้นักลงทุนกลับมาทบทวนว่า AI นับจากนี้จะต้องพัฒนาไปในรูปแบบไหน ซึ่งหาก AI ของจีนมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าจริง ก็จะดิสรัปต์กลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐได้ในอนาคต
“นักลงทุนคงปรับความคาดหวังในช่วงเวลานี้ แต่สุดท้ายต้องดูว่าแนวโน้มกำไรจะออกมาเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต เพราะถ้าย้อนไปในอดีต เหตุการณ์ที่ราคาหุ้น Nvidia ปรับตัวลดลงแรงเคยเกิดขึ้นตอนที่ Baidu (ไป่ตู้) พัฒนา AI ขึ้นมา แต่ทุกวันนี้จะเห็นว่าราคาหุ้น Baidu ยังอยู่ระดับเดิม”
หุ้น Nvidia ร่วงระยะสั้น
นายสิทธิชัยวิเคราะห์ว่า หากประเมินแนวโน้มผลประกอบการ Nvidia ยังค่อนข้างมั่นใจว่ายังมีอัตราการเติบโตที่ดี แต่การเติบโตอาจจะชะลอตัวลงบ้างเมื่อเทียบกับปี 2024 ที่ฐานสูง (อัตราเติบโต 300-400%) โดยตีความจากแนวโน้มผลประกอบการของ TSMC ที่ประกาศกำไรในไตรมาส 4/2567 ออกมาและให้มุมมองต่อทิศทางกำไรในไตรมาส 1/2568 ที่จะเติบโตดีกว่าที่คาด
ส่วนผลกระทบจาก DeepSeek เชื่อมั่นว่าในระยะสั้นช่วงไตรมาส 1-2 ปีนี้ ยังไม่มีผลกระทบต่อผลประกอบการ Nvidia เพราะเชื่อว่าลูกค้าหลักของ Nvidia ยังคงต้องอาศัยชิปที่มีประสิทธิภาพสูงในการประมวลผล โดยเฉพาะผู้พัฒนา Agentic AI หรือ Generative AI ที่ต้องมีการใช้ชิป CPU, GPU, MPU มากขึ้น
“เพราะฉะนั้น เราจึงมองว่าผลกระทบ DeepSeek เป็นความเสี่ยงหนึ่งที่จะกดดันการเติบโตของ Nvidia อาจไม่สูงเท่าเดิมในอนาคต”
ส่วนทิศทางราคาหุ้น หรือ Valuation ของหุ้น Nvidia ปัจจุบันค่อนข้างถูกลง จากราคาปิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2025 ที่ 118.42 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลดลงจากวันก่อนหน้าเกือบ 17% ระดับ P/E ลดลงมาเหลือ 30 เท่า ซึ่งถือว่าไม่แพง ตามกลยุทธ์การลงทุนแนะนำราคาหุ้นที่ปรับลงเป็นจังหวะเข้าซื้อ
โอกาสทองซื้อหุ้นเทคสหรัฐ
นายธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคม ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงแรง (S&P500 -1.46% และ Nasdaq -3.07%) เกิดแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Nvidia (-16.97%), Broadcom (-17.40%), Alphabet (-4.20%) และ Microsoft (-2.14%) หลังจาก DeepSeek ซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ตอัพของจีนได้เปิดตัวโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้ต้นทุนต่ำ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทเทคโนโลยี AI ชั้นนำ
ในสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม Citi (ซิตี้) ยังคงให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น Nvidia พร้อมตั้งเป้าหมายราคาไว้ที่ 175 ดอลลาร์สหรัฐ โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพและความได้เปรียบในตลาด Advanced GPUs แม้จะเผชิญกับความก้าวหน้าของคู่แข่งจากจีนอย่าง DeepSeek ที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีด้าน AI อย่างรวดเร็ว และมองว่า Nvidia ยังคงเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ขั้นสูงสำหรับ AI โดยเฉพาะในตลาดที่การส่งออกเทคโนโลยีถูกควบคุมอย่างเข้มงวด
Citi ระบุอีกว่า บริษัท AI ชั้นนำในสหรัฐยังคงเลือกใช้ชิปประมวลผลของ Nvidia เนื่องจากประสิทธิภาพที่เหนือกว่า อีกทั้งการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ในโครงการสำคัญ เช่น Stargate ยังคงแสดงถึงความต้องการ GPUs ขั้นสูงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านนักวิเคราะห์จาก Wedbush ได้แสดงความมั่นใจว่า แม้ DeepSeek จะได้รับความสนใจจากการเปิดตัว แต่ยังไม่สามารถท้าทายความเป็นผู้นำของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐได้ โดยย้ำว่าการขายหุ้นเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมาเป็น “โอกาสทองในการซื้อ” โดยเฉพาะในหุ้นของบริษัท AI ชั้นนำ เช่น Nvidia, Microsoft และ Alphabet