ศุลกากร จับสินค้าผิดกฎหมาย 4 เดือน มูลค่ากว่า 780 ล้านบาท

ศุลกากร จับสินค้าผิดกฎหมาย 4 เดือน มูลค่ากว่า 780 ล้านบาท

กรมศุลกากร แถลงผลการจับกุมสินค้าผิดกฎหมาย ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 มูลค่ากว่า 780 ล้านบาท โตถึง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการแถลงข่าว กรมศุลกากรแถลงผลการจับกุมสินค้าผิดกฎหมายในช่วง 4 เดือนว่า ตามที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้เพิ่มมาตรการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้า-ส่งออกสินค้าผิดกฎหมายที่ส่งผลต่อสุขภาพ และความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างจริงจัง

ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2568 กรมศุลกากรสามารถจับกุมสินค้าผิดกฎหมาย มูลค่ากว่า 780 ล้านบาท สูงกว่า 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีสินค้าที่น่าสนใจดังนี้

1.บุหรี่ต่างประเทศ

สำหรับสถิติการจับกุมบุหรี่ต่างประเทศ ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567-มกราคม 2568) จับกุมได้ 667 คดี ปริมาณ 17.39 ล้านมวน มูลค่า 90.32 ล้านบาท

ADVERTISMENT

2.บุหรี่ไฟฟ้า

สำหรับสถิติการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567-มกราคม 2568) จับกุมได้ 234 คดี มูลค่า 28.95 ล้านบาท

ADVERTISMENT

3.ยาเสพติด

สำหรับสถิติในการจับกุมยาเสพติด ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567-มกราคม 2568) จับกุมได้ 85 คดี มูลค่า 637.10 ล้านบาท

4.ช่อดอกกัญชา

สำหรับสถิติในการจับกุมกัญชา ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567-มกราคม 2568) จับกุมได้ 361 คดี มูลค่า 24.75 ล้านบาท

5.ของอุปโภคที่ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร

เช่น โลชั่นบำรุงผิว และทิสชูเปียก จำนวน 300,000 ชิ้น มูลค่า 7 ล้านบาท โดยเป็นสินค้าที่มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ และไม่มีเอกสารหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากร, กระดาษเช็ดหน้า จำนวน 223,440 ชิ้น มูลค่า 167,203.35 บาท โดยมีประเทศกำเนิด CHINA แต่บรรจุภัณฑ์ของสินค้าดังกล่าว ระบุ “Made in Thailand” จึงเป็นการแสดงกำเนิดเป็นเท็จ

6.ขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก

สำหรับสถิติการจับกุมของที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567-มกราคม 2568) ได้แก่ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 19 คดี น้ำหนัก 256.64 ตัน เศษพลาสติก จำนวน 8 คดี น้ำหนัก 367.20 ตัน

7.เครื่องเล่นเกม (ตู้คีบตุ๊กตา)

กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ตรวจสอบตู้สินค้าขาเข้า พบของไม่ได้แสดงข้อมูลในใบขนสินค้าเป็นเครื่องเล่นเกม (ตู้คีบตุ๊กตา) โดยนำเข้าในลักษณะแยกชิ้นส่วน ซึ่งสามารถนำมาประกอบเป็นตู้คีบตุ๊กตาครบชุดสมบูรณ์ จำนวน 132 ตู้ มูลค่า 1.6 ล้านบาท

นอกจากนั้น กองสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับ สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ ตรวจสอบสินค้านำเข้าจากประเทศจีน แสดงข้อมูลในใบขนสินค้าเป็นตู้ แต่เมื่อตรวจสอบ พบเป็นเครื่องเล่นเกม (ตู้คีบตุ๊กตา) จำนวน 48 ตู้ มูลค่า 480,000 บาท

ทั้งนี้การจับกุมสินค้าผิดกฎหมายดังกล่าว ไม่มีการเลือกปฏิบัติว่าสินค้าต้นทางมาจากประเทศใด โดยเฉพาะประเทศที่ได้รับผลกระทบการตั้งกำแพงภาษีจากสหรัฐ แต่ยึดกฎหมายในประเทศเป็นหลัก รวมทั้งข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ในฐานะกระทรวงการคลังจะตั้งคณะศึกษาขึ้นมาเพื่อที่จะดูเรื่องของมาตรการที่ทางประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ดำเนินการ โดยศึกษาจากกรณีประเทศเม็กซิโกและแคนาดาที่ได้เข้าไปเจรจาต่อรอง จนได้รับการผ่อนปรนยืดเวลาการขึ้นภาษีไปอีก 1 เดือน

สำหรับกรณีสินค้านำเข้าจากจีน ยังไม่เห็นตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย แต่จะติดตามอย่างใกล้ชิด โดยพิจารณาจากซัพพลายจากจีน ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายสหรัฐและความต้องการสินค้าของคนไทย ซึ่งหากมีตัวเลขการนำเข้าสินค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยก็จะต้องหามาตรการเข้ามาควบคุมต่อไป

ขณะที่การเก็บ VAT สินค้านำเข้ามูลค่าต่ำกว่า 1,500 หลังจากที่มีมติเห็นชอบจาก ครม. ไปแล้ว กรมศุลกากรได้จัดเก็บแทนกรมสรรพากรจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากสรรพากรอยู่ในขั้นตอนพัฒนาแพลตฟอร์มให้มีความพร้อม หากแล้วเสร็จจะจัดเก็บภาษีผ่านแพลตฟอร์มได้โดยตรง ปัจจุบันกรมศุลกากรจัดเก็บ VAT สินค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท ได้ราวเดือนละ 220 ล้านบาท