
บล.กสิกรไทย คาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า เคลื่อนไหวในกรอบ แนวรับ 1,250-1,235 จุด แนวต้าน 1,300-1,310 จุด จับตาถ้อยแถลงประธานเฟด-บจ.ประกาศงบ Q4/67 และนโยบายทรัมป์
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่าประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า(10-14 ก.พ.68) มองว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,250 และ 1,235 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,300 และ 1,310 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟด ผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ของบริษัทจดทะเบียนหรือบจ.ไทย นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ของสหรัฐฯ และทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2567 ของยูโรโซนและอังกฤษ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนม.ค. 2568 ของญี่ปุ่น ตลอดจนยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือนม.ค. 2568 ของจีน
ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (3-7 ก.พ.) ปิดลบต่อเป็นสัปดาห์ที่สามตามความกังวลต่อประเด็นสงครามการค้าและแรงขายหุ้นบิ๊กแคป โดยดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรงช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางหุ้นต่างประเทศท่ามกลางความกังวลว่าสงครามการค้าจะทวีความรุนแรง หลังสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา เม็กซิโกและจีน และจีนก็ได้ออกมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ ในเวลาต่อมาด้วยเช่นกัน ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงต่อเนื่องในระหว่างสัปดาห์
โดยมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติมจากแรงขายหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่ง หลังตลท. มีแนวคิดที่จะกำหนดให้หลักทรัพย์รายตัวที่เป็นองค์ประกอบในดัชนี SET50, SET50FF, SET100 SET100FF มีน้ำหนักไม่เกิน 10%
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยในภาพรวมยังมีปัจจัยกดดันจากการที่หุ้นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่แห่งหนึ่งมีประเด็นเกี่ยวกับการซื้อกิจการคืน ประกอบกับน่าจะมีแรงขาย LTF ที่ครบกำหนดที่เข้ามาเป็นปัจจัยลบของตลาดด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดีดัชนีหุ้นไทยลดช่วงลบได้บางส่วนช่วงท้ายสัปดาห์หลังจากร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี 3 เดือนที่ 1,252.26 จุด โดยมีแรงหนุนจากหุ้นบริษัทที่ประกอบธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมและบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานจากประเด็นการจ่ายเงินปันผล รวมถึงแรงซื้อคืนหุ้นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ที่โดนเทขายอย่างหนักก่อนหน้านี้