เปิด 5 ทางเลือก เมื่อ LTF ครบกำหนด ขายหรือถือ สิ่งที่นักลงทุนอยากรู้?

LTF

บล.กสิกรไทย เปิด 5 ทางเลือก เมื่อกองทุน LTF ครบกำหนด ตอบคำถามนักลงทุนว่าควรขายหรือถือต่อไป

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า กลยุทธ์การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หลังครบกำหนดนั้น ตั้งแต่ปี 2547 กระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ LTF ได้ช่วยสนับสนุนดัชนี SET Index แต่หลังจาก LTF สิ้นสุดลงในปี 2562 โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ 4.06 แสนล้านบาท ดัชนีได้เคลื่อนไหวแกว่งตัวออกข้าง เนื่องจากแรงไถ่ถอนที่เพิ่มขึ้น ณ สิ้นเดือน ม.ค. 2568 มูลค่า AUM ของ LTF ลดลงเหลือ 1.88 แสนล้านบาท

โดยได้รับผลจากดัชนี SET Index ที่ลดลงและมีการไถ่ถอนเพิ่มขึ้น การไถ่ถอนอย่างมีนัยสำคัญ ในเดือน ม.ค. 2568 อยู่ที่ 1.96 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตของเดือนม.ค.ที่ 5 – 8 พันล้านบาท กองทุน LTF ขนาดใหญ่ 10 อันดับแรก คิดเป็น 63% ของ AUM ลดลง 14%

ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย ชี้ว่า มี 5 ทางเลือกสำหรับ LTF เมื่อครบกำหนด ดังนี้

  • ถือเพื่อการเติบโตระยะยาว เป็นคงการลงทุนเพื่อศักยภาพในการเติบโตระยะยาว
  • ขายเพื่อตัดขาดทุน โดยผลการขาดทุน 5-10% ได้ถูกชดเชยด้วยสิทธิประโยชน์ทางภาษีไปแล้ว
  • รับความเสี่ยงได้ต่ำ สามารถเปลี่ยนไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ได้
  • รับความเสี่ยงได้สูง สามารถไถ่ถอนบางส่วนเพื่อนำไปกระจายการลงทุนในหุ้นต่างประเทศก็ได้
  • นำเงินกลับไปลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี หากยังคงต้องเสียภาษีอยู่