เอเซีย พลัส ชี้นักลงทุนแห่ขาย LTF ฉุดมาร์เก็ตแคปตลาดหุ้นไทยวูบ 1.6 ล้านล้าน

เอเซีย พลัส

บล.เอเซีย พลัส เผยตั้งแต่ต้นปีนักลงทุนแห่ขาย LTF ยอดลดลงกว่า 3 หมื่นล้าน ลดลงมากสุดในรอบ 10 ปี ชี้สร้างความเสียหายให้ตลาดหุ้นไทยทำมาร์เก็ตแคปวูบกว่า 1.6 ล้านล้าน

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ระบุว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET Index) เปราะบางนับจากต้นปีถึงวันที่ 10 ก.พ. ปรับตัว -9.6% หรือ Market Cap หายไป 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งหากเทียบกับประเทศที่ถูกตั้งกำแพงภาษีโดยตรงอย่างจีน เม็กซิโก และแคนาดา กลับสวนทาง คือสร้างผลตอบแทนเป็นบวกในปีนี้ทั้งสิ้น

ดังนั้น SET Index ที่ลงมาแรงและเร็ว อาจเกิดจากนักลงทุนกังวลต่อแรงขาย LTF ที่เร่งตัวออกมา สะท้อนได้จากข้อมูลสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคม บลจ.) ยอด LTF ในเดือน ม.ค. 2568 ลดลง 3.14 หมื่นล้านบาท หรือ 14.5% เหลือ 1.88 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี (เฉลี่ย 10 ปี เดือน ม.ค. AUM (สินทรัพย์ภายใต้การจัดการ) ลดลง 8,000 ล้านบาท) ส่งผลให้นักลงทุนเทขาย LTF และนักลงทุนทั่วไปขายหุ้น รวมถึงนักลงทุนทั่วไปไม่กล้าซื้อหุ้น

บล.เอเซีย พลัส ระบุด้วยว่า หากพิจารณามูลค่า LTF ในปัจจุบันที่ 1.88 แสนล้านบาท ถือเป็นสัดส่วนเล็ก ๆ ของกองทุนรวมหุ้นไทยเท่านั้น ต่างกับปี 2562 ที่ LTF เคยมีมูลค่า AUM สูงถึง 4.16 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของกองทุนรวมหุ้นไทย แต่ปัจจุบันเหลือ 1.88 แสนล้านบาท มีสัดส่วนแค่ 16% เท่านั้น อีกทั้งมูลค่า LTF ในปัจจุบันที่ 1.88 แสนล้านบาท ยังเป็นสัดส่วนเล็ก ๆ ของเม็ดเงินที่หมุนเวียนใน SET หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1.2% ของ Market Cap ของ SET ในปัจจุบัน

“แต่ความกังวลแรงขาย LTF ที่ 1.88 แสนล้านบาท ที่มีสัดส่วนเล็ก ๆ กับตลาด กลับเกิดความเสียหายกับตลาดหุ้นให้ Market Cap หายไปแล้วกว่า 1.6 ล้านล้านบาท สรุป SET Index ถูกกดดันจากปัจจัยในประเทศอย่างความกังวลการขาย LTF ซึ่งจริง ๆ แล้วมีสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับ AUM ของกองทุนรวมหุ้นไทยทั้งหมด และเป็นสัดส่วนเล็ก ๆ ของเม็ดเงินที่หมุนเวียนในตลาด (Market Cap) ดังนั้น หากประเด็นดังกล่าวเริ่มผ่านไป SET Index จึงมีโอกาสกลับตัวได้ในอนาคต”