
พิชัย สั่งให้ สศค.-ก.ล.ต. ศึกษาตั้งกองทุน “Thai ESG กอง 2″ คาดชัดเจนเร็วนี้ ชูได้ 2 สิทธิประโยชน์อีกครั้ง
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยกรณีการปรับปรุงเงื่อนไข กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) มูลค่าประมาณ 1.8 แสนล้านบาท ไปอยู่ในกองทุน Thai ESG ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมาย และเงื่อนไขต่าง ๆ ในการโยกเงินกองทุน LTF ที่ครบอายุเข้าสู่กองทุน Thai ESG ซึ่งจะตั้งเป็นกองใหม่
สำหรับรายละเอียดกองทุนที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ยังไม่สามารถตอบได้ ว่า จะเปิดโอกาสให้นักลงทุน ทั้งกลุ่ม LTF เดิม และนักลงทุนรายใหม่เลยหรือไม่ ส่วนนี้จะต้องดูเรื่องวงเงินที่จะเปิดด้วย ขอให้ทีมงานดูรายละเอียดแง่กฎหมายก่อน และดูวงเงินที่จะเปิดว่าเพียงพอรองรับความต้องการหรือไม่
ทั้งนี้ได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.). ศึกษาโดยจะพยายามทำให้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนเร็ว ๆ นี้
สำหรับกองทุน Thai ESG ตัวใหม่ คาดว่าระยะเวลาถือครองอยู่ที่ 5 ปี ขณะที่สัดส่วนในการลงทุนอยู่ระหว่างการศึกษา แต่คาดว่าจะเน้นลงทุนหุ้นไทยที่เกี่ยวข้องกับ ESG ทั้งยืนยันว่า กองทุน LTF เดิมไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ในอดีตตอบโจทย์สมัยนั้น แต่ขณะนี้สถานการณ์ขาดทุน จึงไม่อยากให้นักลงทุนตัดขายขาดทุนทิ้ง
“LTF ได้ทั้ง 2 อย่าง ทั้งประโยชน์ทางภาษี และกำไรจากหุ้น แต่วันนี้ อยู่ในช่วงขาลง ได้ประโยชน์แค่ภาษีแต่กลับขาดทุน เมื่อท่านขาดทุนก็จะตัดทิ้ง ท่านอาจจะมีวิธีซื้อเวลาได้ ให้เข้ามา Thai ESG ตัวใหม่ก็ได้ประโยชน์ทางภาษีอีกครั้ง และมีเวลาดูว่าตัวที่เลือกจะเป็นอย่างไร” นายพิชัยกล่าว