ราคาน้ำมันดิบ (14 ก.พ. 68) ปรับลด หลังสหรัฐเลื่อนการบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้

ราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลดลง หลังสหรัฐเลื่อนการบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลดลง หลังนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากสหรัฐเลื่อนการบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ออกไปอย่างน้อยจนถึงเดือน เม.ย. 68 ซึ่งนักวิเคราะห์จากบริษัท Price Future Group กล่าวว่าการเลื่อนมาตรการภาษีตอบโต้ออกไป สะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐจะต้องใช้เวลามากขึ้นในการเจรจาต่อรองกับประเทศคู่ค้า

นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจายุติสงครามในยูเครน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้แสดงความประสงค์ที่จะบรรลุข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งจะทำให้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียสิ้นสุดลง และส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่าการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียในเดือน ม.ค. 68 ยังคงปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าสหรัฐจะมีมาตรการคว่ำบาตรก็ตาม นอกจากนี้ การส่งออกน้ำมันของรัสเซียอาจดำเนินการต่อไปได้ หากพบแนวทางแก้ไขมาตรคว่ำบาตรของสหรัฐ

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดูไบ หลังอินโดนีเซียนำเข้าน้ำมันเบนซินในเดือน ธ.ค. 67 เพิ่มขึ้น 33.8% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 1.7 ล้านตัน จากช่วงเทศกาลปีใหม่และการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล นอกจากนี้ สต๊อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐปรับลดลง 3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 248.1 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดูไบ หลังสต๊อกน้ำมันดีเซลของญี่ปุ่นปรับลดลง 8.1% สู่ระดับ 1.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ปริมาณนำเข้าน้ำมันดีเซลของอินโดนีเซียในเดือน ธ.ค. 67 ปรับลดลง 1.1% จากเดือนก่อนหน้าสู่ระดับ 0.6 ล้านตัน และคาดว่าใน 2568 อินโดนีเซียจะนำเข้าน้ำมันดีเซลลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากมีแผนบังคับใช้ส่วนผสมไบโอดีเซลที่สูงขึ้น

ADVERTISMENT