
อธิบดีกรมสรรพากรเผยยอดจัดเก็บรายได้สะสม 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 สูงกว่าเป้าหมาย 7.5 พันล้านบาท เตือนบุคคลธรรมดายื่นแบบเสียภาษี
นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรจัดเก็บรายได้สะสม 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567-มกราคม 2568) ได้ 646,217 ล้านบาท สูงกว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน 23,426 ล้านบาท คิดเป็น 3.8% และสูงกว่าประมาณการจัดเก็บภาษีสรรพากรตามเอกสารงบประมาณ 7,588 ล้านบาท คิดเป็น 1.2%
โดยกรมสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการทุกเดือน หากพิจารณาเฉพาะภาษีที่กรมสรรพากรเป็นผู้จัดเก็บโดยไม่รวมหน่วยงานอื่นจัดเก็บให้ กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บได้ 488,065 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน 25,973 ล้านบาท คิดเป็น 5.6% และสูงกว่าประมาณการ 11,857 ล้านบาท คิดเป็น 2.5%
“กรมสรรพากรมุ่งเน้นการขยายฐานภาษีและการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี จึงสามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคภายในประเทศ หรือ ภ.พ. 30 สะสม 4 เดือนแรกได้สูงกว่าปีก่อน 20,730 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13 และสูงกว่าประมาณการ 16,585 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.4
อย่างไรก็ดี ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าสะสม 4 เดือนแรกจัดเก็บได้ต่ำกว่าปีก่อนร้อยละ 2.7 และต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 3.1 ซึ่งกรมสรรพากรได้ร่วมกับกรมศุลกากรติดตามการจัดเก็บภาษีอย่างใกล้ชิด จึงทำให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าในเดือนมกราคม 2568 สูงกว่าปีก่อน 2,470 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7.9 และสูงกว่าประมาณการ 804 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.4”
อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวด้วยว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงเวลาของการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90/91 กรมสรรพากรขอแนะนำผู้มีเงินได้ถึงเกณฑ์ยื่นแบบ ตามที่กฎหมายกำหนดให้ยื่นแบบ ประจำปีภาษี 2567 ตรงตามข้อเท็จจริง โดยสามารถยื่นแบบผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ถึงวันที่ 8 เมษายน 2568