ธนารักษ์เร่งประเมินที่ดิน ให้สะท้อนราคาจริง พร้อมยกระดับทั่วประเทศ

กรมธนารักษ์เดินหน้าประเมินที่ดินรายแปลงทั่วประเทศ ให้สะท้อนราคาจริง พร้อมยกระดับที่ดินมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกมิติ นำร่อง “พิพิธตลาดน้อย” พัฒนาท่องเที่ยวชุมชน ควบคู่อนุรักษ์วัฒนธรรมและสังคมไทยสู่ความยั่งยืน

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์มีแผนการพัฒนาที่มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินของรัฐในหลายมิติ โดยตั้งใจที่จะยกระดับและพัฒนาทรัพย์สินของรัฐ เช่น ที่ดินและเหรียญ เพื่อให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและตอบโจทย์ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม

โดยในสัปดาห์หน้า จะมีการเตรียมประชุมจัดทำมาสเตอร์แพลน แผนบริหารจัดการทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ทั่วประเทศ เพื่อยกระดับทรัพย์สินของรัฐ จากที่ราชพัสดุ 12.5 ล้านไร่ แบ่งเป็น

1.มาสเตอร์แพลนยกระดับสินทรัพย์เชิงวัฒนธรรม ที่มีความสำคัญต่อสังคมไทย โดยการร่วมมือกับชุมชนเพื่อสร้างรายได้และรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น “พิพิธตลาดน้อย“

ซึ่งเป็นหนึ่งในโมเดลของการนำที่ดินมาใช้เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ควบคู่กับการอนุรักษ์วัฒนธรรมและสังคมให้คงอยู่ ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่และชุมชน ชูสถานที่สำคัญ ของดีของเด่น และอาหารอร่อยในพื้นที่ ส่งเสริม Soft Power และกระตุ้นการท่องเที่ยว ตามนโยบายรัฐบาล

เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนสำหรับด้านที่ดินในเชิงอนุรักษ์ เช่น บึงบอระเพ็ด ในจังหวัดนครสวรรค์ นับว่ามีศักยภาพในการนำมาสร้างโซลาร์ฟาร์ม เพื่อสร้างรายได้เพิ่มจากพลังงานสะอาด

ADVERTISMENT

2.มาสเตอร์แพลนด้านเหรียญ เช่น เหรียญที่ระลึกที่ผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเหตุการณ์หรือวัฒนธรรมต่าง ๆ ซึ่งสามารถต่อยอดมูลค่าเพิ่มในเชิงวัฒนธรรมได้ โดยกรมธนารักษ์ตั้งใจที่จะใช้เหรียญเหล่านี้ในการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว

3.มาสเตอร์แพลนด้านประเมินราคาที่ดิน เพื่อสร้างผลตอบแทนต่อทรัพย์สินให้สูงขึ้น ด้วยการเดินหน้าประเมินราคาที่ดินรายแปลงทั่วประเทศ

ADVERTISMENT

โดยกรมธนารักษ์ได้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในการประเมินราคาที่ดิน เช่น การใช้ข้อมูลจากดาวเทียมเพื่อให้การประเมินมีความแม่นยำและละเอียดมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การประเมินราคาที่ดินสามารถสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมที่ดิน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและแม่นยำในการประเมิน

“ขณะนี้การประเมินที่ดินรายแปลงทำได้ 50% ของที่ดินทั้งหมดทั่วประเทศ เพื่อให้ราคาประเมินของกรมธนารักษ์สะท้อนกับราคาตลาดในปัจจุบันมากขึ้น เมื่อมีการโอนทรัพย์สิน ทำให้มียอดเงินกู้เพื่อค้ำประกันกับธนาคารได้เพิ่มขึ้น และภาครัฐมีรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่ม” นายเอกนิติกล่าว

สำหรับเป้าหมายกรมธนารักษ์ในการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2568 จะตั้งเป้าไว้ที่ 10,600 ล้านบาท มั่นใจว่าสามารถจัดเก็บได้ตามเป้า