MTC โชว์กำไรปี 67 โต 19.58% ตั้งเป้าสินเชื่อปี 68 ที่ 10-15% อนุมัติจ่ายปันผล 15 พ.ค.นี้

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล หรือ MTC โชว์ผลงานปี’67 มีกำไรสุทธิ 5,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.58% มีพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 1.64 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.60% พร้อมรักษาหนี้เสียอยู่ที่ 2.75% พร้อมตั้งเป้าปี’68 เติบโต 10-15% และปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ ล่าสุดบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลงวดปี’67 เป็นเงินสดในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 28 เม.ย.นี้ และจ่ายปันผล 15 พ.ค.นี้

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2567 พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 164,242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.60% ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 27,902 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.77% และมีกำไรสุทธิ 5,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.58% เทียบปี 2566 ในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 2.75% ลดลงต่อเนื่องจากปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 3.11% เป็นผลมาจากมาตรการในการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง และการติดตามหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“รายได้และกำไรในปี 2567 ที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการมุ่งเน้นขยายพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักประกัน และการเปิดสาขาเพิ่ม โดยในปี’67 เปิดสาขาเพิ่มอีก 635 สาขา รวมมีสาขาทั้งหมด 8,172 สาขา ณ สิ้นปี 2567”

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดปี 2567 (มกราคม-ธันวาคม 2567) เป็นเงินสดในอัตรา 0.25 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 28 เมษายน 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 15 พฤษภาคม 2568

นายปริทัศน์กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโตระหว่าง 10-15% พร้อมคุม NPL ให้ไม่เกิน 2.70% ควบคู่การปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรม ภายใต้หลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พร้อมเป็นแหล่งเงินทุนที่มีคุณภาพ พร้อมสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจให้กับสังคมไทยอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในมาตรฐานระดับโลก

โดยที่ผ่านมา MTC มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม จนได้รับการรับรองผลการประเมิน ESG MSCI Index ในปี 2566 ที่ระดับ AA ในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค (Customer Finance) และได้รับการจัดอันดับอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน โดยได้รับการประเมินที่ระดับ AAA ในปี 2567 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ ยังได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2567 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors : IOD) ในระดับดีเลิศ (Excellent CG Scoring) หรือ 5 ดาว เป็นปีที่ 7 ติดต่อกันอีกด้วย สะท้อนถึงการเป็นผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในมาตรฐานระดับโลก (World-Class Thai Microfinance) ผ่านความร่วมมือกับสถาบันการเงินระดับโลกต่าง ๆ และบริษัทยังเป็นสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (NBFI) รายแรกของประเทศไทย ที่ได้มีการออกหุ้นกู้เพื่อสังคมมูลค่า 335 ล้านเหรียญสหรัฐ เสนอขายแก่นักลงทุนสถาบันต่างประเทศทั้งจำนวนอีกด้วย” นายปริทัศน์กล่าว

ADVERTISMENT