หุ้นไทยไซด์เวย์ จับตาทิศทางดอกเบี้ย กนง.

Thai Sideway stocks
คอลัมน์ : เช็กกระแสหุ้น

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (17-21 ก.พ.) ปรับตัวลดลง

โดย “ณัฐพล คำถาเครือ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า SET Index สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงแรงตั้งแต่ต้นสัปดาห์ สาเหตุจากผลกระทบของหุ้นรายตัว อย่าง AOT ที่ร่วงแรงจากความกังวลแรงกดดันของกระแสเงินสดของคิง เพาเวอร์ และ DELTA หลังจากที่รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้กดดัชนีลดลงต่อเนื่อง

ขณะที่ช่วงปลายสัปดาห์มีการ Take Profit หรือขายทำกำไร ของหุ้นกลุ่ม GULF, INTUCH หลังจากที่ขึ้นเครื่องหมาย XD เรียบร้อยแล้ว ทำให้สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นไทยซบเซา อย่างไรก็ตาม หุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก หลายตัวเริ่มฟื้นขึ้น หลังจากที่ผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ออกมาดี

และจ่ายเงินปันผลในเกณฑ์ที่เหมาะสม รวมถึงรับผลดีจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีการปรับเกณฑ์ชอร์ตเซล จำกัด HFT ให้เป็นหลักทรัพย์เฉพาะในกลุ่ม SET100 เท่านั้น จึงมีแรงเก็งกำไรกลับมาในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะที่มองไปในสัปดาห์ข้างหน้า (24-28 ก.พ.) ณัฐพลิ ประเมินว่า ดัชนี SET จะยังคงแกว่งไซด์เวย์ กรอบแนวรับ 1,235 จุด แนวต้าน 1,265-1,270 จุด ซึ่งยังคงต้องติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2567 โดยประเมินว่าส่วนใหญ่น่าจะออกมาดี เช่น BAM, CPALL, SAWAD ที่เป็นหุ้นกลุ่ม Domestic Play

นอกจากนี้ยังต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ว่าจะมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยหรือไม่ หรือมีการส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างไร รวมถึงติดตามตัวเลข Core PCE ของสหรัฐในเดือน ม.ค. ที่จะประกาศในวันที่ 28 ก.พ.นี้ โดยตลาดคาดการณ์ไว้ค่อนข้างต่ำที่ 2.6% ซึ่งอาจจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) และค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ฟื้นตัวได้

ADVERTISMENT

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ของ บจ. ที่คาดว่าจะออกมาดี เช่น BAM, CPALL, SAWAD รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากที่ กนง. อาจส่งสัญญาณในการลดดอกเบี้ย เช่น กลุ่มไฟแนนซ์ SAWAD, MTC, TIDLOR เป็นต้น