เปิดโผ 5 หุ้นผลตอบแทน 3 ปีสุดปัง ROE เกิน 15% ปันผลสูงเกิน 6%

หุ้นไทย ตลาดหุ้น

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดโผ 5 หุ้นเด่น “LANNA-TISCO-NER-PHOL-TTW” โชว์ฟอร์มแกร่ง ผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีสุดปัง ROE เกิน 15% ปันผลสูงเกิน 6% “บล.หยวนต้า” ชี้ NER กำไรโตต่อเนื่อง “ราคายางสูง-ยอดส่งออกโต” รับเศรษฐกิจจีนฟื้น ราคาหุ้นอยู่โซนล่างแนะซื้อ รับปันผลสูง 6.2% ขึ้น XD 24 เม.ย. 68 “TISCO” มองเข้าลงทุนได้ บริษัทควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี “TTW” ซื้อถือลงทุนยาวเพราะเป็นหุ้น Defensive

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดทำรายงานข้อมูลหุ้นรายตัวที่มีสถิติผลตอบแทนดี โดยยึดจากเกณฑ์ (Criteria) การคัดเลือก 2 ด้าน คือ 1.อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี (2564-2566) ตั้งแต่ 15% ขึ้นไป และ 2.อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ตั้งแต่ 6% ขึ้นไป โดยพบว่ามีทั้งหมด 5 บริษัท ที่โชว์ฟอร์มแกร่ง ประกอบด้วย

1.บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) (LANNA) ผู้ผลิตและจำหน่ายถ่านหินทั้งในประเทศและต่างประเทศ พบว่ามี ROE เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี 34.41% และมี Dividend Yield ที่ 14.40%

2.บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TISCO) กลุ่มธุรกิจทางการเงินโดยมีธนาคารทิสโก้เป็นส่วนสร้างรายได้หลัก พบว่ามี ROE เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี 17.05% และมี Dividend Yield ที่ 7.61%

3.บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NER) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง พบว่ามี ROE เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี 30.51% และมี Dividend Yield ที่ 7.13%

4.บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) (PHOL) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม และผู้จัดจำหน่าย และให้บริการออกแบบ ผลิต รับก่อสร้าง ให้บริการเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภค และบริโภค พบว่ามี ROE เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี 18.50% และมี Dividend Yield ที่ 8.42%

ADVERTISMENT

และ 5.บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) (TTW) ธุรกิจสาธารณูปโภคในการผลิตและจ่ายน้ำประปา พบว่ามี ROE เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี 20.82% และมี Dividend Yield ที่ 6.61%

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หากวิเคราะห์หุ้นดังกล่าว NER ถือว่าน่าสนใจ เพราะราคายางอยู่ในระดับสูงและยอดส่งออกเติบโตดี มองบวกต่อทั้งอุตสาหกรรมยางพารา เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนช่วยจำกัด Downside Risk ของราคายาง และคาดว่าจีนจะเร่งสต๊อกยางมากขึ้นในช่วงกลางปีก่อนที่คำสั่งซื้อยาง EUDR เร่งตัวขึ้น

ADVERTISMENT

ทำให้ปี 2568 ผลประกอบการ NER น่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง คาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ 1,918 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบจากปี 2567 โดย NER มีแผนการลงทุนขยายกำลังการผลิตขนาด 3 แสนตัน ด้วยเงินลงทุน 1.2 พันล้านบาท ที่ชัดเจนมากขึ้น โดยคาดจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 4/2568

ขณะที่ราคาหุ้นอยู่ในโซนล่างคือปรับตัวลงต่อเนื่อง ปัจจุบันราคาตลาดต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (PER) ปีนี้ต่ำเพียง 5.6 เท่า โดยบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลัง 2567 ที่ 0.31 บาท/หุ้น ซึ่งยังให้ผลตอบแทนถึง 6.2% จะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 เม.ย. 2568 กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 9 พ.ค. 2568 จึงแนะนำซื้อถือว่ายังคงมี Upside Gain ให้ราคาเป้าหมายที่ 6.45 บาท

“อย่างไรก็ตาม NER เป็นหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ซึ่งจะมีความผันผวนของราคายาง เพราะฉะนั้น ผู้ลงทุนต้องติดตามราคายางอย่างใกล้ชิด แนะนำลงทุนเป็นรายปี ไม่ควรถือยาว ประเมินปีนี้หุ้นน่าจะดีจากแรงหนุนเศรษฐกิจจีนที่ไม่ได้แย่กว่าปีที่แล้ว เพราะมีการกระตุ้นภายใน แต่ก็อาจฟื้นไม่เต็มที่เพราะโดนกดดันจากสงครามการค้า (Trade War)” นายณัฐพลกล่าว

ถัดมา TISCO ก็เป็นหุ้นที่เข้าลงทุนได้ เพราะบริษัทมีการกระจายความเสี่ยงและสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี ประเมินสถานการณ์ราคารถยนต์มือสองเริ่มนิ่ง และตลาดรถยนต์ปีนี้คาดว่าน่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นได้ อีกทั้งยังคงนโยบายการจ่ายปันผลสูง ปัจจุบันปรับจ่ายปันผลเป็นปีละ 2 ครั้ง ซึ่งข้อดีคือทำให้กระแสเงินสด (Cash Flow) มีความสม่ำเสมอมากขึ้น แต่ข้อเสียคือราคาหุ้นจะไม่เห็นจังหวะการเร่งตัวในช่วงปลายปีเด่น ๆ เหมือนที่จ่ายปันผลครั้งเดียวเต็มปีที่ระดับ 7-8% ในทุกรอบช่วงที่ผ่านมา ๆ

ส่วน TTW เป็นหุ้น Defensive ก็น่าสนใจ นักลงทุนสามารถซื้อและถือลงทุนยาว ๆ ได้ ขณะที่หุ้น LANNA ถ้าจะลงทุนต้องระวังเนื่องด้วยเป็นธุรกิจถ่านหินซึ่งค่อนข้างจะมีความผันผวนสูง