หุ้นไทยหลุดแนวรับสำคัญ 1,220 จุด ลุ้นฟื้นบ่ายรับ ส่งออก ม.ค.โตเกินคาด +13.6%

ดัชนีหุ้นไทยปิดเช้านี้หลุดแนวรับสำคัญ 1,220 จุด บล.เอเซีย พลัส ชี้เปิดโอกาสเจอแนวรับรายปีต่ำกว่า 1,200 จุด เจอฐานช่วง 1,140-1,180 จุด หวังลุ้นดัชนีฟื้นภาคบ่าย หลังกระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกไทย ม.ค.โตเกินคาด +13.6% และพรุ่งนี้หาก กนง. มีเซอร์ไพรส์ “ลดดอกเบี้ย” จะช่วยดึงเซนติเมนต์ดัชนี SET ไม่เสี่ยงเปิด Downside ไปเจอฐานรายปี

นางสาวปวริศา เลิศกิจคุณานนท์ นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุนและด้านเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้าวันนี้ (25 ก.พ. 2568) พบว่าตลาดหุ้นเอเชียแกว่งในแดนลบ นำโดยตลาดหุ้นอินโดนีเซีย -2.34% ตลาดหุ้นญี่ปุ่น -1.28%

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปิดเช้านี้หลุดแนวรับสำคัญ 1,220 จุด ปรับตัวลดลง 18.17 จุด หรือ -1.47% โดยแรงขายหลัก ๆ มาจากกลุ่มไอซีที อาทิ ADVANC -2.45%, TRUE -2.50% กลุ่มค้าปลีก อาทิ CPALL -4.35%, CPAXT -1.79% รวมถึง WHA -5.41%

โดยดัชนี SET ดึง Low หลุดกรอบล่างเส้นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend Line) ที่ไต่ระดับมาตั้งแต่ปี 2551 ช่วง 1,220-1,225 จุด เปิดโอกาสเจอแนวรับรายปีต่ำกว่า 1,200 จุด เจอฐานช่วง 1,140-1,180 จุด ในแง่ Valuation อิงราคาปิดเมื่อวานนี้ (24 ก.พ.) ที่ 1,235.85 จุด และอิงการปรับประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ลง 8 บาท/หุ้น จะได้ EPS ที่ 88 บาท ระดับ P/E อยู่ที่ 14 เท่า แปลงเป็น Market Earning Yield Gap (MEYG) ได้ 4.87% หากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ย 0.25% จะเพิ่ม MEYG สูงขึ้นเป็น 5.12% ถือว่าตลาดหุ้นไทยถูกกว่าช่วงโควิด ในแง่ Valuation และมุมมองทางเทคนิค

ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขนำเข้าส่งออกไทยเดือน ม.ค. 2567 เติบโตดีกว่าคาด โดยยอดส่งออกไทยเติบโต 13.6% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) (คาดโต +7.4% YOY) โดยไก่สดและแปรรูปโต 12.3% ขยายตัว 4 เดือนต่อเนื่อง มองบวกต่อ CPF, GFPT อาหารสัตว์เลี้ยงโต 13% ขยายตัว 16 เดือนต่อเนื่อง มองบวกต่อ ITC, AAI, ASIAN และยางพาราโต 45.5% ขยายตัว 15 เดือนต่อเนื่อง มองบวกต่อ STA, NER, STGT

โดยกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ส่งออกไทยจะยังคงขยายตัวในช่วงไตรมาส 1/2568 โดยมีปัจจัยหนุนของดีมานด์ต่างประเทศเร่งตัวขึ้น จากความกังวลนโยบายการค้าของทรัมป์ที่ยังมีความไม่แน่นอน (ทั้งรายชื่อสินค้าและกลุ่มประเทศ) บวกกับความต้องการสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เติบโตต่อเนื่อง

ขณะที่ยอดนำเข้าเติบโต 7.90% (คาดโต 2.5% YOY) แต่ดุลการค้าขาดดุล 1,880 ล้านเหรียญ สูงกว่าคาดว่าจะขาดดุล 1,500 ล้านเหรียญ

ส่วนพรุ่งนี้ประชุม กนง. คาดคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม 2.25% แม้มีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ยให้เร็วที่สุด เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจให้โตตามเป้าหมายของ ธปท. ในปีนี้ที่ 2.9% แต่อย่างไรก็ตามหากมีเซอร์ไพรส์ลดดอกเบี้ย จะพอช่วยดึงเซนติเมนต์ให้ดัชนี SET ไม่เสี่ยงเปิด Downside ไปเจอฐานรายปีที่ 1,180/1,140 จุด และบวกต่อกลุ่มไฟแนนซ์และอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่กระทรวงการคลังย้ำตั้งกองทุน ThaiESG ใหม่ เสร็จทันช่วงเดือน มี.ค. 2568 เพื่อรองรับการโยกเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) วงเงินล่าสุด 1.88 แสนล้านบาท โดยฝ่ายวิจัยประเมิน 12 หุ้นมีโอกาสที่เงินจะไหลเข้า อาทิ PTTEP, CPALL, SCB, KBANK, BDMS, KTB, BBL, CPN, CRC, TTB, CPF, SCC