
ธนาคารไทยพาณิชย์ ปักธงปี 69 ขึ้นแท่นเป็นผู้นำอันดับ 1 ธุรกิจความมั่งคั่ง ตั้งเป้าเติบโต AUA โต 2 หลัก ดันสัดส่วนยอดลงทุนผ่านดิจิทัล 30% สร้างความพึงพอใจลูกค้า คาดหนุนสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจมั่งคั่งเกิน 20% พร้อมมองจีดีพีโต 2.5-3% มอง กนง. หั่นดอกเบี้ย 1 ครั้ง
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงไทย ที่มีความต้องการลงทุน ซึ่งมีการคาดการณ์ภายใน 3 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2571 ประเทศไทยจะมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUA) สูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งธุรกิจ Wealth จะเป็นเครื่องยนต์สำคัญของธนาคารที่มีการเติบโตเฉลี่ยตัวเลข 2 หลัก
ทั้งนี้ เป้าหมายธนาคารต้องการเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง โดยวัดจากผลงาน 3 ด้าน ได้แก่ 1.สินทรัพย์ AUA ที่จะต้องเติบโต 2 หลัก ซึ่งจะสนับสนุนไปสู่เป้าหมายอันดับ 1 ได้ และ 2.ความพึ่งพอใจของลูกค้า (NPS) จากปัจจุบันอยู่ในอันดับ 2 และ 3.ความสำเร็จของลูกค้าผ่านผลตอบแทนจากการลงทุนที่จะต้องชนะค่าเฉลี่ยของตลาด (Benchmark Outperform)
ขณะที่ตั้งเป้าภายในปี 2569 จะมีสินทรัพย์ AUA เติบโต 2 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท โดยจะเพิ่มเป็น 1.4 แสนล้านบาท และลูกค้าลงทุนผ่านดิจิทัลที่มียอดสม่ำเสมอ (Acitve) ที่มีการใช้ 4 ครั้งต่อปี เพิ่มสัดส่วนเป็น 30% จาก 15% รวมถึงสินทรัพย์การลงทุนสกุลเงินต่างประเทศเติบโตอยู่ที่ 1.8 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ธนาคารต้องการดูแลลูกค้าทุกช่วงชีวิต โดยลูกค้าที่มีสินทรัพย์ค่อนข้างสูง จะเน้นใช้ช่องทางดิจิทัลและพนักงานลูกค้าสัมพันธ์ (RM) ขณะที่ลูกค้าที่มีสินทรัพย์ไม่สูงจะเน้นใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการลงทุนในต้นทุนที่ต่ำ ขณะเดียวกัน ธนาคารได้ออกแนวคิด “No Gain No Pay” ลงทุนแบบไม่เก็บค่าธรรมเนียมถ้าทำไม่ถึงเป้าหมาย ซึ่งธนาคารได้ออกแนวคิดในช่วงเดือนตุลาคม 2567 และจะใช้ในบางกองทุน
ดังนั้น จากทิศทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าว คาดว่าสัดส่วนรายได้ในการบริหารธุรกิจความมั่งคั่งจะสามารถเติบโตได้ 2 หลัก หรือขยายตัว 20% ภายในปี 2569 ซึ่งจะเป็นการสร้าง Growth Engine ใหม่ให้กับธนาคาร จากปัจจุบันธนาคารมีฐานลูกค้าราว 5 แสนราย
“หาเราสามารถทำได้ตามเป้าหมาย 3 ด้านที่เป็นมาตรวัดสำคัญ จะทำให้เราไม่กลัวในการแข่งขันธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) โดยจะทำให้เราทำสำเร็จเป็นผู้เล่นบริหารความมั่งคั่งอันดับ 1 ได้”
นายกฤษณ์ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัว 2.5-3% มองว่าเศรษฐกิจไทยไม่น่าจะแย่กว่าปีก่อน เนื่องจากงบประมาณภาครัฐออกมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ขณะที่นโยบายการเงิน เชื่อว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อยู่ในโหมดผ่อนคลาย คาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ 1 ครั้งในปีนี้