
บล.เอเซีย พลัส มองหุ้นไทยเดือน มี.ค. 68 ที่ 1,140-1,270 จุด หลังผลกระทบจากสหรัฐ เริ่มเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากทั่วโลก และหลายประเทศในเดือน มี.ค. 68 นี้ ส่วนเศรษฐกิจไทย 68 แนวโน้มเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมแนะ 7 หุ้นเด่นน่าลงทุน
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด รายงานผ่านบทวิเคราะห์ว่า มองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index เดือน มี.ค. 68 ไว้ที่ 1,140-1,270 จุด ส่วนหนึ่ง เตรียมรับผลกระทบจากสหรัฐ จะเริ่มเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากทั่วโลก และหลายประเทศในเดือน มี.ค. 68 นี้ ขณะที่ Tech War เริ่มเห็นสัญญาณกีดกันทางเทคโนโลยีมากขึ้น ระหว่างสหรัฐ-จีน ซึ่งอาจผลักดันให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
ส่วนของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ต้องเพิ่มยาแรงในการกระตุ้น อาทิ มาตรการต่าง ๆ จากฝั่งรัฐบาล ซึ่งอาจมีความจำเป็นที่จะต้องขยายเพดานหนี้สาธารณะขึ้นไปเป็นระดับ 75% หรือ 80% จะทำให้มีช่องว่างทางการเงินเพิ่มอีกราว 2-3 ล้านล้านบาท ส่วนตลาดหุ้นไทย มี Downside ค่อนข้างจำกัด จาก Valuation ถูก
โดยมี Dividend สูงระดับเกิน +2SD. อยู่ที่ 3.88% และมี PBV ต่ำเกินระดับ -2SD. อยู่ที่ 1.20 เท่านั้น จึงถือเป็นปัจจัยหนุนให้ SET น่าจะมี Downside ค่อนข้างจำกัด และคาดหวังผลตอบแทนในระยะกลาง-ยาวได้ ขณะที่กำไร 4Q67 ทยอยออกมา 203 บริษัท (66% Market Cap) อยู่ที่ 1.46 แสนล้านบาท (+21.5% QOQ/+21.3% YOY) โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรมีโอกาสแตะระดับ 2 แสนล้านบาทได้ไม่ยากนัก
ส่วนปัจจัยกดดัน เริ่มจากการเมืองไทยยังเป็นปัจจัยกดดัน SET ต่อไปอีกสักระยะ จากที่ยังไม่ทราบผลลัพธ์ของทั้ง 2 ประเด็น คือ 1.คดีฮั้วเลือกตั้ง สว. 2.การเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ส่วนอีกประเด็น คือ การมีแรงขายสุทธิผ่าน Program Trading พร้อมกับการ Short Sale รายตัวหนัก ๆ ในบางวัน จึงทำให้ SET Index ผันผวนในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุนเดือน มี.ค. 68 แนะนำหุ้นเด่นน่าลงทุน 4 Theme หลัก ๆ ดังนี้ หุ้นปันผล AP, PTT, CPN หุ้นอิงดอกเบี้ยและไทยลดลง MINT, MTC หุ้นเข้าสู่ช่วงฤดูกาล CBG หุ้นหลบ Trade War AMATA