ไทยประกันชีวิต ปี’67 กำไรสูงประวัติการณ์ 11,682 ล้าน เคาะปันผล 0.5 บาท/หุ้น

ไทยประกันชีวิต ปี 2567 กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 11,682 ล้าน แรงหนุนกำไรลงทุนหุ้นต่างประเทศโตพุ่ง 119% มูลค่ากำไรธุรกิจใหม่ 7,336 ล้านบาท มีอัตรากำไร 60.8% มูลค่าพื้นฐานของกิจการเติบโต 12.6% ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 180,773 ล้านบาท คิดเป็น 15.8 บาทต่อหุ้น บอร์ดมีมติให้จ่ายเงินปันผล 0.50 บาทต่อหุ้น XD วันที่ 7 พ.ค. 68

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในปี 2567 มีกำไรสุทธิ 11,682 ล้านบาท เติบโต 20.4% เทียบจากปี 2566 (YOY) โดยกำไรจากการรับประกันภัยอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2566 แม้ว่าภาพรวมสินไหมค่ารักษาพยาบาลจะเพิ่มสูงขึ้น

ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ เน้นการขายผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความคุ้มครอง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างความยั่งยืนของกำไรจากการรับประกันภัย

ขณะเดียวกันบริษัทมีกำไรจากการลงทุนเติบโตสูงถึง 119.7% เป็นผลจากสภาวะตลาดหุ้นในต่างประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น และการปรับพอร์ตการลงทุนของบริษัทให้สอดคล้องกลยุทธ์และมาตรฐานรายงานทางการเงินใหม่ที่เริ่มบังคับใช้ในปี 2568

ทั้งนี้บริษัทมีการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนอย่างระมัดระวังเพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 สินทรัพย์ลงทุนของบริษัทมากกว่า 80% ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งหมด เป็นสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้

ขณะที่มูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ (Value of New Business : VONB) ในปี 2567 อยู่ที่ 7,336 ล้านบาท โดยอัตรากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB Margin) มีอัตรา 60.8% โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมสูงถึง 87,854 ล้านบาท

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าพื้นฐานของกิจการ (Embedded Value) เพิ่มขึ้น 12.6% จากปีก่อน เป็น 180,773 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ขณะเดียวกันบริษัทมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR Ratio) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 619.4% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้อยู่ที่ 140% สะท้อนสถานะเงินทุนที่แข็งแกร่งอันเป็นรากฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 คณะกรรมการบริษัทมีมติเพื่ออนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากผลกำไรในปี 2567 ในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,725 ล้านบาท คิดเป็น 49.06% ของกำไรสุทธิประจำปี 2567 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท โดยบริษัทได้กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 8 พ.8. 2568 จะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พ.ค. 2568 ซึ่งเงินปันผลจะจ่ายหลังได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 29 เม.ย. 2568 และสำนักงาน คปภ. เรียบร้อยแล้ว

ADVERTISMENT

นายไชย กล่าวเพิ่มว่า บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาการบริการเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ (Seamless Experience) และมอบบริการที่มากกว่าให้กับลูกค้า ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยพัฒนานวัตกรรมต่างๆ อาทิ การพัฒนาแอปพลิเคชั่น ไทยประกันชีวิต ที่ลูกค้าสามารถเลือกรับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Policy) และการสลักหลังกรมธรรม์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Endorsement) ทำให้ลูกค้าเข้าถึงกรมธรรม์ของตนเองได้สะดวกมากขึ้น

การให้บริการชำระเบี้ยประกันภัยผ่านการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติออนไลน์ หรือผ่าน QR Code บนแอปพลิเคชัน รวมถึงการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Next Best Offer ลูกค้าสามารถพิจารณาตัวเลือกการประกันภัยเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความคุ้มครองได้ และฟีเจอร์ My Wellness การประเมินสุขภาพเบื้องต้นผ่านการสแกนใบหน้า หรือ Vital Scan

นอกเหนือจากการพัฒนาบริการหลังการขายแล้ว บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวดิจิทัลแพลตฟอร์ม “Live Bright ผู้ช่วยสุดสมาร์ทที่ช่วยค้นหาสิ่งที่คุณอยากทำ” โดยใช้ Generative AI มาพัฒนาข้อมูลสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต กระตุ้นให้เกิดการลงมือทำ รวมถึงการวางแผนชีวิตในแบบเฉพาะบุคคล เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถวางแผนชีวิตของตนเองและคนที่รักได้ตรงตามความคาดหวังและความต้องการ

“วิสัยทัศน์ของไทยประกันชีวิต คือการมุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืนที่ส่งมอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสีย บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนระหว่างธุรกิจและสังคม ทั้งมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยกำหนดแผนแม่บทการพัฒนาสู่ความยั่งยืนและ Roadmap การดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม ซึ่งได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จ เห็นได้จากรางวัลต่าง ๆ ที่ได้รับ

อาทิ รางวัลบริษัทประกันชีวิตที่มีการบริหารงานดีเด่น อันดับ 1 ประจำปี 2567 จากสำนักงาน คปภ.,

  • รางวัล Best Corporate Life Insurance Company – Thailand 2024 จากงาน The Global Economics Awards,
  • รางวัล Most Innovative ESG Insurance Provider 2024 จาก International Finance Awards 2024 ประเทศอังกฤษ,
  • รางวัล Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2024 สาขา Corporate Sustainability Reporting จากสถาบัน Enterprise Asia ประเทศสิงคโปร์

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการจัดอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings 2024 ในระดับ “A” โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” นายไชยกล่าว