
แบงก์พาณิชย์ขานรับ กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 2.00% ต่อปี ส่องธนาคารไหนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยทั้งกระดาน MLR, MOR และ MRR เท่าไรกันบ้าง หวังช่วยพยุงเศรษฐกิจ-ลดภาระครัวเรือนและภาคธุรกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (RP) ลง 0.25% จาก 2.25% เหลือ 2.00% ต่อปี ในการประชุมเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งหลัง กนง.ลดดอกเบี้ยลง จะเห็นว่าธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี รวมถึงเงินฝากตามมา
โดย “ธนาคารไทยพาณิชย์” เป็นผู้นำประกาศลดอัตราดอกเบี้ย โดยนายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้มเติบโตไม่สูงนักจากปัจจัยท้าทายภายนอกและความเปราะบางภายในประเทศ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดต้นทุนทางการเงิน สนับสนุนการใช้จ่ายและการลงทุนให้เกิดสภาพคล่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป
ทั้งนี้ ธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR : Minimum Overdraft Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.325% เป็น 7.075% ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR : Minimum Retail Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.175% เป็น 7.075% ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR : Minimum Loan Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.925% เป็น 6.825% ต่อปี
และตามมาด้วย “ธนาคารกรุงไทย” โดยนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ระบุว่า เพื่อสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อ ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะนโยบายของประเทศเศรษฐกิจหลักของโลก และปัญหาเชิงโครงสร้าง จากเศรษฐกิจนอกระบบที่มีขนาดใหญ่ และหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
รวมถึงช่วยเหลือลูกค้าลดภาระทางการเงิน ในช่วงที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ธนาคารกรุงไทยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงสูงสุด 0.25% สอดคล้องกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
โดยประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับลดลงจากปัจจุบัน 7.270% ต่อปี เป็น 7.020% ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยเงินลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับลดลงจากปัจจุบัน 6.925% ต่อปี เป็น 6.825% ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปรับลดลงจากปัจจุบัน 7.445% ต่อปี เป็น 7.345% ต่อปี
ด้านนายจงรัก รัตนเพียร ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.25% เหลือ 2.00% ต่อปีนั้น ธนาคารพร้อมตอบสนองต่อมาตรการดังกล่าวด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับลูกค้าทุกกลุ่มสูงสุด 0.25% เพื่อตอกย้ำความตั้งใจของธนาคารในการดูแลและช่วยเหลือลูกค้าบรรเทาภาระหนี้ ลดต้นทุนทางการเงิน และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อสำหรับภาคธุรกิจ และภาคครัวเรือน ธนาคารประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ มีผลวันที่ 4 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับลด 0.25% จาก 7.34% เป็น 7.09% ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับลดจาก 7.15% เป็น 7.05% ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปรับลดจาก 7.18% เป็น 7.08% ต่อปี
นายไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อปรับลดลงสูงสุด 0.25%
โดยอัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ (MLR) หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) ปรับเป็น 6.825% ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) หรือ MOR เป็น 7.10% ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) หรือ MRR เป็น 6.95% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2568
นอกจากนี้ ธนาคารกรุงเทพได้มีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ย “เงินฝาก” ผ่านเว็บไซต์ธนาคาร โดยมีผลเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่มีการปรับลดลง ได้แก่ เงินฝากประจำระยะเวลา 4 เดือน โดยปรับจากอัตราดอกเบี้ย 1.75% มาลงอยู่ที่ 1.50% ต่อปี ในทุกประเภทกลุ่มลูกค้า
และเงินฝากประจำระยะเวลา 7 เดือน ปรับจาก 1.80% ลงมาอยู่ที่ 1.65% ต่อปี ในทุกประเภทกลุ่มลูกค้า
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ทีทีบีมีความห่วงใยลูกค้าทุกกลุ่ม จึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี สอดคล้องกับมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.25% เหลือ 2.00% ต่อปี เพื่อช่วยลดภาระทางการเงินของลูกค้าและเพิ่มสภาพคล่อง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะต่อไป
ทั้งนี้ ธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย MOR ลดลง 0.25% ต่อปี ส่วนอัตราดอกเบี้ย MLR และอัตราดอกเบี้ย MRR ลดลง 0.10% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในช่วงที่สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยยังคงมีความท้าทายและเผชิญกับปัจจัยเสี่ยง กรุงศรีเล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยเหลือลดภาระทางการเงินให้กับลูกค้ารายย่อย และลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการภาคธุรกิจ
โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR, MOR และ MRR ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยใหม่เป็นดังนี้
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate หรือ MLR) ปรับลดลงจาก 7.155% เป็น 7.055%
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate หรือ MOR) ปรับลดลงจาก 7.325% เป็น 7.075%
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate หรือ MRR) ปรับลดลงจาก 7.275% เป็น 7.175%
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยใหม่ดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป