ดอลลาร์แข็งค่า หลังถ้อยคำแถลงของนายมาริโอ ดรากี รอบบ่าย

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 19 มิถุนายน 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (19/6) ที่ระดับ 32.67/69 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (18/6) ที่ 32.65/66 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องจากกระแสเงินทุนไหลออกของนักลงทุนต่างชาติ ภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตามความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก โดยล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ในอัตรา 10% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐได้มีการประกาศรายชื่อสินค้าจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% วงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันดอลลาร์ก็ได้รับแรงกดดันจากถ้อยคำแถลงของสมาชิกธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยนายราฟาเอล บอสติค ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในสภาวะที่ค่อข้างดี ซึ่งจะทำให้เฟดสามารถเดินหน้าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี นายบอสติกสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้ง ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งแตกต่างจากกรรมการเฟดส่วนใหญ่ที่ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยให้เหตุผลว่าเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง ซึ่งทำให้ไม่มีความจำเป็นที่เฟดจะต้องสนับสนุนหรือขัดขวางการใช้จ่าย และการลงทุนสำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อวานนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 2 จุด สู่ระดับ 68 ในเดือน มิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน จากความกังวลเกี่ยวกับค่าวัสดุที่แพงขึ้น ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.64-32.86 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.82/84 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (19/6) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1632/34 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (18/6) ที่ 1.1597/99 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นต่อ หลังจากอ่อนค่าอย่างรวดเร็วภายหลังการประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งประเด็นความวิตกกังวลของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนที่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง แต่หลังจากที่ตลาดยุโรปเปิดในช่วงบ่าย ค่าเงินยูโรอ่อนค่าอย่างรวดเร็วจากถ้อยคำแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) นายมาริโอ ดรากี ที่กล่าวว่า ECB จะพิจารณาการปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้การเคลื่อนไหวระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1531-1.1644 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1541/44 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับค่าเงินเยนในวันนี้ (19/6) เปิดตลาดที่ระดับ 110.11/13 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (18/6) ที่ 110.55/57 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ จากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่สูงขึ้น ภายหลังจากที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ และจีนรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 109.56-110.57 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 109.86/88 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

สำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ได้แก่ สำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดขายบ้านของสหรัฐ (20/6) ยอดน้ำมันดิบคลัง (20/6) การประชุมของ กนง. (20/6) การประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (21/6) ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน (22/6) และดัชนี PMI ภาคบริการของยูโรโซน (22/6)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -3.4/-3.15 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +2.0/+3.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ