บล ไทยพาณิชย์ ชูแอปฯ “EASY INVEST” เปิดประตูลงทุนครบเครื่องทั้งใน-ตปท.

บล ไทยพาณิชย์ ชูแอปฯ “EASY INVEST” เปิดประตูลงทุนครบเครื่องทั้งใน-ตปท. ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเพิ่มเป็น 2 แสนบัญชี ลั่น 3 ปี ขึ้นTop Three Broker

บล ไทยพาณิชย์ ชูแอปฯ “EASY INVEST” ช่วยบริหารเงินครบเครื่อง เริ่มบริการต้นส.ค.61 ลูกค้าซื้อขายได้ทั้งหุ้น-บอนด์-กองทุนรวม และอื่นๆทั้งในและต่างประเทศ พร้อมมีบทวิจัยส่งตรงความต้องการของลูกค้า เพิ่มผู้เชี่ยวชาญผนึกฝ่ายการตลาดให้คำปรึกษาลงทุนใกล้ชิด เล็งเปิดบริการด้านอัตราแลกเปลี่ยน ปักธงขยายฐานลูกค้าเพิ่มแตะ 2 แสนบัญชีใน 3ปี ลั่น 3ปีขึ้นแท่นโบรกเกอร์ 3 อันดับแรก

นายกัมพล จันทวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS เปิดเผยว่า บริษัทได้สร้างแพลตฟอร์มการลงทุนใหม่ ชื่อว่า “EASY INVEST” เพื่อเพิ่มช่องทางให้ลูกค้าสามารถลงทุนได้ทุกรูปแบบทั่วโลกผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีทั้งกองทุนรวม หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศที่มีให้เลือกซื้อมากกว่า 25 ประเทศทั่วโลก ตราสารหนี้ ตราสารอนุพันธ์ Algo Trading Robo Advisor และอีกหลายผลิตภัณฑ์ทั้งในและต่างประเทศผ่านช่องเดียว ซึ่งแอปพลิเคชั่น EASY INVEST จะรวมพอร์ตการลงทุนไว้ที่เดียว สร้างความคล่องตัวและสะดวกในการลงทุนสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีผ่านแอปฯนี้เพียงบัญชีเดียว จะสามารถลงทุนได้ทุกผลิตภัณฑ์ โดยแอปฯนี้จะเปิดให้บริการซื้อขายผลิตภัณฑ์ลงทุนเริ่มได้ตั้งแต่เดือนส.ค. 2561 นี้เป็นต้นไป แต่ฟีเจอร์อาจจะยังไม่ครบ

นอกจากนี้ ในแอปฯยังมีการพัฒนาบทวิจัย การนำส่งบทวิจัยและคำแนะนำการลงทุนให้แก่นักลงทุนแต่ละราย เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสมกับพอร์ตการลงทุนด้วย เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี ซี่งปีนี้บริษัทจะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่มีรายได้มั่งคั่ง(Wealth) เพราะยังขยายตัวได้อีกมาก รวมทั้ง แอปฯEASY INVEST จะเข้าไปอยู่ในแอปฯของแบงก์แม่ไทยพาณิชย์ด้วย คือ SCB EASY ซึ่งจะทำให้ลูกค้าที่อยู่ในแบงก์แม่ สามารถใช้บริการได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความมั่งคั่งให้ลูกค้าโดยรวมได้ดี โดยปีนี้ บริษัทตั้งเป้ามีฐานลูกค้าเพิ่มเป็น 2 แสนบัญชี จากปัจจุบันที่บริษัทมีลูกค้าอยู่ 100,000 บัญชี

“เราได้พัฒนาบทวิจัยและบทวิเคราะห์ทั้งในและต่างประเทศที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น บทวิเคราะห์ของบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Morningstar พร้อมค่าธรรมเนียมที่ถูกที่สุด ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนมีความมั่นใจการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันเราจะเก็บข้อมูลความถี่ในการเข้าไปดูรูปแบบการลงทุนที่ผู้ลงทุนแต่ละรายสนใจ หากมีความถี่ในการเข้ามาดูมาก จะสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่มากด้วย ก็จะสามารถส่งบทวิจัยได้อย่างถูกต้องและตรงตามความต้องการของผู้ลงทุน นอกจากนี้ ได้เปลี่ยนวิธีการให้คำแนะนำการลงทุน โดยต้นเดือน ก.ค. นี้ เราจะตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญมาช่วยทีมการตลาด เพื่อให้บริการผู้ลงทุนได้อย่างใกล้ชิดเพิ่มขึ้น และส่งข้อมูลข่าวสารได้เร็วขึ้น รวมถึงผุ้ลงทุนสามารถติดต่อขอนัดพูดคุยผ่านวิดีโอคอลได้ ซึ่งวิดีโอคอลจะเริ่มให้บริการได้ต้นปีหน้า ” นายกัมพล กล่าว

สำหรับแพลตฟอร์มของ“EASY INVEST” จะมีโมเดลให้ลูกค้าเลือก 2 แบบ คือ แบบ Goal based สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการตั้งเป้าหมายการลงทุนได้เอง และแบบ Menu set ซึ่งจะมีรูปแบบกรลงทุนที่ให้เลือกเยอะมาก ซึ่งแต่ละพอร์ตจะมีผลตอบแทนที่แตกต่างกันไป ลูกค้าสามารถเลือกพอร์ตที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด และสามารถติดตามผลการลงทุนได้ผ่านมือถือ

นายกัมพล กล่าวว่า ที่สำคัญ “EASY INVEST” จะเปิดให้บริการรับฝากตราสารหนี้ (Bond) ต่อไปจะมีบริการซื้อขายบอนด์ ซึ่งเป็นแห่งแรกที่ให้บริการบนมือถือ โดยบริษัทจะมีแจ้งล่วงหน้าดอกเบี้ยที่จะเข้าบัญชี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนได้ ซึ่งแอปฯนี้จะมีฟีเจอร์ให้บริการครบน่าจะช่วงเดือนต.ค. นี้ นอกจากนี้ บริษัทเตรีบมจะขอใบอนุญาตการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนกับทางแบงก์ชาติด้วย ซึ่งจะทำให้ต่อไปบริษัทสามารถให้บริการด้านต่างประเทศ

“สำหรับการใช้งบลงทุนสร้างแพลตฟอร์ม EASY INVEST อยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบลงทุน 5 ปี ดังนั้น เราจะมีการสร้างฟีเจอร์ใหม่ๆขึ้นมาให้บริการลูกค้าอยู่เรื่อยๆ จากการสร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมา จะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างสมดุลสัดสวนรายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 65% และธุรกิจอื่นๆอยู่ที่ 35% ก็จะปรับขึ้นมาอยู่สัดส่วนเท่าๆกันหรือ 50% ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีจากนี้ มาร์เกตแชร์ด้านโบรกเกอร์อยู่ที่ 5% จากปีที่แล้ว 4%และสามารถเลื่อนขึ้นมาติด 1 ใน 3 อันดับแรกของอุตสาหกรรมโบรกเกอร์ “นายกัมพล กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานของบล.ไทยพาณิชย์ ปีนี้ตั้งเป้าหมายกำไรสุทธิอยู่ที่ 600 ล้านบาท ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกนี้ คาดจะทำได้ 300 ล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้าหมายกำไรสุทธิอยู่ที่ 800 ล้านบาท