
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้าอยู่ที่ 1,187.27 จุด ลดลง 14.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 16,246.58 ล้านบาท แรงขายหุ้น DELTA-PTT หุ้นใหญ่กดดันดัชนี โบรกฯ คาดบ่ายแกว่งซึมในแดนลบต่อ แนวรับ 1,180 จุด แนวต้าน 1,195 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปิดช่วงเช้า (10 มี.ค.) ดัชนีอยู่ที่ 1,187.27 จุด ลดลง 14.67 จุด (-1.23%) ดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,196.52 จุด และทำจุดต่ำสุด 1,185.54 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 16,246.58 ล้านบาท
สำหรับ 5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด คือ
- DELTA ปิดที่ 76.75 บาท ลดลง 5.54%
- PTT ปิดที่ 29.00 บาท ลดลง 2.25%
- KBANK ปิดที่ 149.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.68%
- SCB ปิดที่ 123.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.65%
- CPALL ปิดที่ 51.00 บาท ลดลง 1.92%
โดยบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด รายงานว่า คาดมุมมองตลาดภาคบ่ายยังแกว่งซึมในแดนลบต่อ โดย SET ร่วงหลุดต่ำกว่า 1,200 จุดอีกครั้ง ตาม Sentiment ตลาดภูมิภาคที่ถูกกดดันจากความเสี่ยงภาวะเงินฝืดของจีน
ขณะที่การประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจยังต้องติดตามรายละเอียดที่ชัดเจน ทำให้ตลาดยังขาดปัจจัยหนุน ช่วงบ่ายคาดดัชนีแกว่งซึมในแดนลบต่อ ประเมินแนวต้าน 1,195 และ 1,200 จุด แนวรับ 1,180 และ 1,175 จุด ตามลำดับ
สำหรับประเด็นสำคัญภาคเช้า SET Index ภาคเช้าปิดที่ 187.27 จุด ลดลง 14.76 จุด(-1.23%) มูลค่าการซื้อขายราว 1.6 หมื่นล้านบาท แรงซื้อหลักมาจากกลุ่มธนาคาร, แฟชั่น, บริการเฉพาะกิจ แรงขายหลักมาจากกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, พลังงาน, ค้าปลีก
หุ้นนำตลาด (Impact Gainers) มากสุดภาคเช้า 5 ลำดับแรก ได้แก่ PTTEP, SCB, KBANK, KTB, TTB ด้านหุ้นกดดันตลาด (Impact Losers) มากสุดภาคเช้า 5 ลำดับเเรก ได้แก่ DELTA, PTT, AOT, CPALL, ADVANC
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าส่วนใหญ่ปรับลดลง แรงกดดันจากความกังวลภาวะเงินฝืดในจีน หลังจากทางการจีนรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ ก.พ. ลดลง 0.7% เป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน