
บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เผยแนวทางดันเศรษฐกิจไทยปี 2568 โตเกิน 3% ลุยขันนอต 3 เรื่องหลัก “แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง-แจกเงินหมื่นเฟส 3-วางรากฐานประชาชนใช้ดิจิทัล”
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 1/2568 ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมมีเรื่องใหญ่อยู่ 3 เรื่องคือ 1.การขับเคลื่อนหรือกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจให้เกิน 3% โดยใช้ 4 แนวทาง คือ
- การเร่งรัดการลงทุนภาครัฐจากปกติ 70% ให้เพิ่มเป็น 80% ในปีนี้
- กระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน โดยร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เร่งการลงทุนของภาคเอกชนให้เร็วขึ้นจาก 3 ปีเป็น 2 ปี
- กระตุ้นการส่งออกปีนี้ให้สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ โดยให้ขยายตัวได้ 4%
- กระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยการเพิ่มอีเวนต์ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว
ส่วนในอนาคตจะมีแผนปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจเข้ามาอีก เพราะขณะที่เรากำลังทำงานก็เจอปัญหาในเชิงโครงสร้าง
“สำหรับปัญหาเชิงโครงสร้างที่เราพบเจอ เช่น การผลักดันให้มีการส่งออก ซึ่งผู้ส่งออกก็อยากเห็นคือ 1.มีต้นทุนที่แข่งขันได้ 2.มีปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งต้องมาดูว่าสินค้าไหนเยอะไปน้อยไปควรลดไหม 3.สินค้าที่มีคุณภาพ ขายได้ราคาดี 4.ค่าเงินบาทที่อ่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะแก้ไขปัญหา” นายพิชัยกล่าว
2.โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต เฟส 3 โดยเรียกว่าเฟส 1 เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ใช้ระบบดิจิทัลวอลเลต โดยจะจ่ายในปลายไตรมาส 2 ถึงต้นไตรมาส 3 ของปี 2568 ให้กับกลุ่มที่ลงทะเบียนไว้แล้ว มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี ซึ่งอยู่ในกลุ่มวัยเรียน เนื่องจากสามารถที่จะช่วยพ่อแม่ได้
ขณะเดียวกันที่ประชุมยังได้เห็นชอบตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อตรวจการทุจริตตามข้อกังวลของนายกฯ เนื่องในอดีตมีข้อผิดพลาดในการแจกเงินค่อนข้างเยอะ และให้การใช้จ่ายเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการสามารถตรวจสอบได้ สำหรับกลุ่มอายุ 20-60 ปี จะต้องขอไปดูกันอีกทีว่าจะต้องแบ่งอย่างไร
“โครงการดิจิทัลวอลเลตเป็นเฟส 1 มีข้อดีเยอะ ซึ่งระบบอาจจะลำบากในการสร้าง แต่ถ้าเทียบกับการให้เงินอุดหนุนอื่น ๆ ซึ่งดิจิทัลวอลเลตสามารถกำหนดการใช้จ่ายได้ ทั้งเรื่องร้านค้า พื้นที่ ทำให้การเติมเงินสู่ระบบเป็นไปตามที่เราต้องการ ทำให้เรารู้ว่าชีวิตความเป็นอยู่ของคนในประเทศนี้เป็นอย่างไร นำไปวางแผนอื่น ๆ ได้อีก ถือเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล” นายพิชัยกล่าว
3.อยากให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูล สำหรับใครไม่มีมือถือ รัฐบาลจะจัดกลุ่มนี้ในการช่วยเหลือ และใช้เป็นฐานข้อมูลว่า จะทํายังไงให้ประชาชนได้รู้จักใช้มือถือ สามารถเข้าถึงเชื่อมโยงกับรัฐบาลได้ ทั้งนี้ คณะกรรมการอยากเน้นการใช้ดิจิทัลเพื่อวางรากฐานในอนาคต
“เรากําลังวางรากฐานการใช้และรู้จักดิจิทัลเหล่านี้ให้กับประชาชน เนื่องจากประชาชนกับภาครัฐบาลแยกกันไม่ขาด” นายพิชัยกล่าว