
PLANB หุ้นดิ่งหนัก 9% บล.กรุงศรีคาดถูกกดดันจากความกังวลกรณีปัญหาสมาคมฟุตบอลไทยฯ แพ้คดีต้องชำระค่าเสียหายให้คู่ความ 360-560 ล้านบาท ประเมินกรณี Worst Case กระทบกำไร 2%
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB พบว่าวันนี้ราคาแกว่งในแดนลบตลอดทาง และดิ่งหนักลงไปทดสอบระดับต่ำสุดของวัน (Low) ที่ราคา 5.45 บาท ลดลง 0.55 บาท หรือ -9.2% เมื่อเทียบจากราคาวันก่อนหน้า
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ว่า ราคาหุ้น PLANB ที่ลดลงหนักวันนี้คาดถูกกดดันจากความกังวลกรณีปัญหาสมาคมฟุตบอลไทยฯ ประเมินกรณี Worst Case กระทบกำไร 2% โดยวานนี้ (12 มี.ค.) มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ แถลงปัญหาในสมาคมฟุตบอลไทยฯ กรณีสมาคมฟุตบอลไทยฯ แพ้คดีต้องชำระค่าเสียหายให้คู่ความ 360-560 ล้านบาท ทำให้จะมีการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนายกสมาคมคนก่อน (ที่มีการยกเลิกสัญญาคู่กรณี) และพยายามหารายได้มาจ่ายค่าเสียหายให้สมาคมฟุตบอลไทยฯ เดินหน้าต่อไปได้
ทำให้มีความกังวลว่าจะกระทบกับ PLANB ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานบริหารสิทธิให้สมาคมฟุตบอลไทยฯในขณะนี้หรือไม่ (PLANB ชนะประมูลได้บริหารสิทธิในปี 2017-2020 และปี 2021-2028)
ข้อแรก PLANB ได้สิทธิการบริหารมาด้วยวิธีการประมูลอย่างถูกต้อง (ตามข่าวมาดามแป้งไม่ได้พูดถึงว่ามีการทุจริตการประมูลรอบใหม่) เราจึงคาดว่าปัญหาข้างต้น (การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนายกสมาคมคนก่อนหน้า) จะไม่ส่งผลต่อสัญญาสัมปทานระหว่าง PLANB และสมาคมฟุตบอลไทยฯ
ข้อสอง กรณีอาจมีการเจรจาขอลดผลตอบแทนในบางส่วนจาก PLANB เพื่อให้สมาคมฟุตบอลไทยฯ มีสภาพคล่องพอที่จะดำเนินงานต่อไปได้ (ในทางคู่ขนานสมาคมฟุตบอลไทยฯ ก็จะไปเจรจากับผู้เสียหายเพื่อขอผ่อนผันการชำระค่าเสียหายด้วย) กรณีนี้เบื้องต้นทางนักลงทุนสัมพันธ์ PLANB เผยว่ามีการเจรจาจริง แต่ยังไม่มีข้อสรุป
มุมมองของฝ่ายวิจัย 1.PLANB ได้สัญญาอย่างถูกต้อง ดังนั้น PLANB อาจไม่ลดผลตอบแทนตามที่สมาคมฟุตบอลไทยฯ ร้องขอมาก็ได้ และ 2.ถ้า PLANB ช่วยคงต้องรอความชัดเจนว่า PLANB จะช่วยเท่าไร และได้รับสิ่งใดชดเชยมาหรือไม่ อย่างไร
โดยปี 2567 ที่ผ่านมา PLANB ได้ส่วนแบ่งรายได้จากการบริหารสิทธิให้สมาคมฟุตบอลไทยฯจำนวน 250 ล้านบาท (จากรายได้ที่หาได้ 1.2 พันล้านบาท) และมีต้นทุนการสนับสนุนสื่อประชาสัมพันธ์จำนวน 200 ล้านบาท เท่ากับว่า PLANB มีกำไร (ก่อนหักภาษี) จากการบริหารสิทธิจำนวน 50 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4% ขอกำไร PLANB ในปี 2567
ดังนั้น กรณี Worst Case ถ้าถอดกำไรก้อนดังกล่าวออกจากประมาณการ จะกระทบกับกำไร PLANB ไม่เกิน 4% (ซึ่งจริง ๆ อาจต่ำกว่านั้น เพราะคาดกำไรจากส่วนอื่น ๆ ของ PLANB มีการเติบโตในปีถัด ๆ ไปทุกปี) และกระทบราคาเป้าหมายไม่เกิน 1%
ขณะที่ปัจจุบัน PLANB กำลังมีดีลสำคัญ (เพิ่มกำลังให้บริการสื่อนอกบ้าน 50% ซึ่งประเมินเป็น Upside ต่อกำไร PLANB ราว 10-20% ต่อปี และเป็น Upside ต่อราคาเป้าหมาย 7%) ที่กำลังจะเข้าประชุมผู้ถือหุ้นในเดือน เม.ย. 2568 นี้
ดังนั้น กรณีที่ราคาหุ้น PLANB ลดลงมาในวันนี้จากความกังวลข้างต้น เรามองเป็นโอกาสเข้าลงทุน คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.35 บาท (ยังไม่รวม Upside จากแผนการเพิ่มกำลังให้บริการ 50%)