ทีทีบี ปักหมุดปี 68 ลุยแก้ไขปัญหาหนี้ พร้อมแคมเปญ “ผ่อนดี มีรางวัล” ช่วยลูกหนี้ดี

ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ทีทีบี กางกลยุทธ์ปี 68 เดินหน้าช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ลูกค้าต่อเนื่อง ผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” คาด ธปท.ขยายเวลา ช่วยลูกค้าเข้าลงทะเบียนเพิ่ม หวังลูกค้าบ้านเข้าร่วม 70% หลังตัวเลขล่าสุดมีลูกค้าเข้าร่วม 21% พร้อมให้รางวัลคนผ่อนชำระดี ผ่านโปรแกรม “ผ่อนดี…มีรางวัล” ให้คนรีไฟแนนซ์บ้าน-รถ-สินเชื่อส่วนบุคคล ตั้งเป้าปีแรก 1 หมื่นล้านบาท เปิดรับวันที่ 17 เมษายน-31 สิงหาคม 68

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่า แผนกลยุทธ์ในปี 2568 จะเป็นปีที่ธนาคารจะมองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) มองลูกค้าเป็นกลุ่ม ๆ และมองยาว ๆ ว่าประเทศเผชิญปัญหาอะไรบ้าง โดยโจทย์แรกประเทศกำลังมีปัญหาโลกปั่นป่วน หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์เข้ามา ทำให้ความเสี่ยงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) สูงสุดในรอบ 20 ปี ปัญหาสงครามการค้า (Trade War) ส่งผลให้ไทยที่พึ่งพาการส่งออกและนำเข้ามีปัญหาแน่นอน และการแข่งขันที่สูงขึ้นจากสินค้าจีนที่ทะลักเข้ามาในไทย

โดยจะเห็นการแข่งขันที่ไม่เฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) แต่ลามไปถึงธุรกิจขนาดใหญ่

นอกจากนี้ ไทยยังเผชิญสังคมสูงวัย รายได้โตไม่ทันรายจ่าย โดยรายได้โตเฉลี่ยปีละ 2% แต่รายจ่ายโตปีละ 6% ส่งผลให้ครัวเรือนต้องกู้มากลบรายจ่าย เช่นเดียวกับธุรกิจก็ต้องกู้มากลบ ส่งผลเริ่มมีปัญหาผิดชำระหนี้และกำลังจะเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น โดยตัวเลขสินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) ครัวเรือนอยู่ที่ 11% และธุรกิจเอสเอ็มอี 20%

“ปัญหาวันนี้มากกว่าการเติบโต เพราะโลกเจอการแข่งขันที่สูง โจทย์วันนี้ คือ ความอยู่รอด ทำให้การโฟกัสด้านการเติบโตลดลง แต่โฟกัสจะเป็นการอยู่รอดของลูกค้า แต่การเติบโตจะเป็นเรื่องของเฟสต่อไป”

ดังนั้น โจทย์และหน้าที่ของธนาคาร คือ ต้องการให้ลูกค้าและธุรกิจมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยช่วงโควิด-19 มีมาตรการตั้งหลัก และการรวมหนี้ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย และในปีก่อนมีสินเชื่อสวัสดิการ เพื่อช่วยลูกค้ามนุษย์เงินเดือน และล่าสุดร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย (TBA) ออกมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” ถือว่าเป็นยาแรง และเป็นโครงการที่ดีที่สุด

โดยที่ผ่านมาธนาคารเดินหน้าพัฒนาโซลูชั่นทางการเงินที่ช่วยให้ลูกค้าจัดการภาระหนี้ได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ผ่านบริการรวบหนี้ที่ช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 2,240 ล้านบาท สินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ที่ให้พนักงานเงินเดือนองค์กรเข้าถึงสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า โดยปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือแล้วกว่า 8,800 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารได้ช่วยเหลือลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้วสัดส่วน 10% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด

และยังมีโปรแกรม Financial Literacy ที่ประกอบด้วยแพลตฟอร์มตรวจสุขภาพการเงินออนไลน์ที่มีลูกค้าเข้าร่วมวัดระดับหนี้กว่า 96,000 ครั้ง คอร์สให้ความรู้ทางการเงินออนไลน์และบริการให้คำปรึกษาโค้ชปลดหนี้ โดยทั้งหมดนี้ให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

อย่างไรก็ดี สัญญาณที่สะท้อนออกมาจากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” จะเห็นว่า กลุ่มสินเชื่อรถประมาณ 80% บอกว่าไม่สู้ รถไม่คืน เป็นภาระสังคมที่คนดีต้องแบกภาระมาจ่ายคืน และมีเพียง 20% ที่กลับมาสู้ ส่วนธุรกิจเอสเอ็มอีราว 50% ก็ไม่ต้องการสถานประกอบการ เพราะต้องการเงินไว้ดีกว่า สินเชื่อส่วนบุคคลมีเพียง 13% ที่แม้แต่ Hair Cut หนี้ยังไม่สนใจ และสินเชื่อที่อยู่อาศัยต้องการกลับมามีราว 60% และที่เหลือ 40% ไม่ต้องการบ้าน เพราะอาจจะซื้อเพื่อเก็งกำไร โดยธนาคารพยายามช่วยเหลือเต็มที่ ทั้งนี้ ปัจจุบันมีลูกค้าทีทีบีกว่า 21% จากลูกค้าเป้าหมายลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ

ขณะที่ลูกค้าที่ดี ธนาคารจะเข้าไปดูแลลูกค้ากลุ่มนี้เป็นพิเศษ โดยมีโปรแกรม “ผ่อนดี…มีรางวัล” ที่มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้ากลุ่มสินเชื่อกลุ่มคนมีรถ คนมีบ้าน พนักงานเงินเดือน เช่น หากลูกค้ามีประวัติผ่อนดีจะได้รับข้อเสนอรีไฟแนนซ์ที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า และยังได้รับรางวัลเป็นส่วนลดดอกเบี้ย หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ และยังรวมถึงลูกค้าเอสเอ็มอี และผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลาง “ในปี 68 จะเป็นปีที่ธนาคารจะสร้าง “The MEANINGFUL Change” ให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม เราไม่เพียงปล่อยสินเชื่อ แต่ต้องการสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง”

นายปิติ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่หลายคนมองว่า ธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อ หรือสภาพคล่องนั้น มองว่า ปัจจุบันลูกค้ารายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย ทำให้ต้องการกู้เงิน ซึ่งการกู้เงินเป็นการเพิ่มภาระ เพราะต้องจ่ายดอกเบี้ย ทำให้ปัญหายิ่งหนักไปสู่ปัญหาหนี้ครัวเรือน และเอสเอ็มอี ปัจจุบันเริ่มลามไปสู่รายกลางและรายใหญ่

ดังนั้น หากมองไปปลายทางใส่เงินเข้าไป หรือลดดอกเบี้ยลง 0.25% ไม่ใช่การแก้ปัญหา เพราะลดดอกเบี้ยสลึง แต่ลูกค้าเจ็บร้อย ซึ่งเป็นที่มาของการต้องยกระดับรายได้ และพยายามช่วยเหลือกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือ และช่วยลูกค้าดีให้สามารถปิดหนี้ได้ 3 ปี หรือใส่ผลิตภัณฑ์การเงินที่ถูกต้อง และถูกจริต จะเป็นที่มาของคำว่า “สภาพคล่อง” และ “เงินกู้” ไม่ใช่คำตอบ

นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ทีทีบี กล่าวว่า แผนกลยุทธ์ปี 2568 ธนาคารตั้งเป้าหมาย “ปีแห่งการช่วยเหลือลูกหนี้” โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ช่วยเหลือลูกค้าผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น รวบหนี้ 4 หมื่นราย วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ลดภาระดอกเบี้ยกว่า 2,240 ล้านบาท และจะยังทำต่อเนื่องไป หรือโครงการสินเชื่อสวัสดิการสำหรับพนักงานเดินบัญชีเงินเดือนผ่านธนาคาร (PayRoll) ได้ 5.3 หมื่นราย วงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้น 7.28% ต่อปี ช่วยลูกค้าลดภาระดอกเบี้ยได้ 6,000 ล้านบาท

และโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ข้อมูล ณ วันที่ 5 มีนาคม 2568 ในส่วนของสินเชื่อบ้าน กลุ่มเป้าหมาย 1.25 หมื่นราย มีลูกค้าเข้ามาลงทะเบียน 58% หรือราว 7,000 ราย สินเชื่อรถยนต์ ที่มีฐานลูกค้ากว่า 1 ล้านราย มีกลุ่มเป้าหมาย 1.8 แสนราย มีลูกค้าเข้าโครงการ 19% หรือราว 3.4 หมื่นราย อย่างไรก็ดี ธปท.ได้ขยายเวลาการลงทะเบียน ธนาคารคาดว่าจะช่วยให้ลูกค้าเข้ามาสมัครเพิ่มเติมโดยเฉพาะลูกค้าสินเชื่อบ้านที่ต้องการเห็นสัดส่วน 70%

“เราต้องการช่วยเหลือลูกค้ามากขึ้น ทำให้ลูกค้าไม่ไหลไปเป็นหนี้เสีย และลูกค้าเอ็นพีแอลก็สามารถกลับมาได้ โดยปีนี้เราจะทำอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการคุณสู้ เราช่วย”

ขณะที่ลูกค้าที่มีประวัติผ่อนดี ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ หรือค้างชำระหนี้ ธนาคารมองเห็นความสำคัญของคนกลุ่มนี้จึงวางแนวทางการให้ที่มากกว่าผ่านโปรแกรม “ผ่อนดี…มีรางวัล” สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ผ่อนดีจะได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มค่าที่มากกว่า ได้แก่

สินเชื่อบ้าน ลูกค้ารีไฟแนนซ์ ผ่อนดีดอกเบี้ยคงที่ตลอดสัญญา No Step Up Rate 3.39% ต่อปี (MRR-4.215% ต่อปี) ดอกเบี้ยปีที่ 4 ไม่มีกระโดด โดยไม่ต้องไปรีไฟแนนซ์ทุก ๆ 3 ปี และหากผ่อนดีต่อเนื่อง มีดอกเบี้ยพิเศษ 5.45% ต่อปี* (*MRR-2.155% ต่อปี) เมื่อต้องการวงเงิน Top Up หรือเลือก Undo ค่าโปะได้ เมื่อต้องการเงินฉุกเฉิน ถอนเงินที่โปะมาใช้ได้ทันที ผ่านบัตรกดเงินสด พร้อมฟรีค่าประเมิน และค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย

สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ลูกค้าที่ผ่อนดี รีไฟแนนซ์มาที่ทีทีบี ลดดอกเบี้ยทันที เริ่มต้นเพียง 13% ต่อปี พร้อมรับเงินคืน 5% ของดอกเบี้ยปีแรก เมื่อผ่อนดีต่อเนื่องครบ 12 เดือน สินเชื่อบุคคล เมื่อรีไฟแนนซ์ผ่านบัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช ลดภาระดอกเบี้ยทันที เริ่มต้นเพียง 17% ต่อปี (จากปกติสูงสุด 25% ต่อปี) พร้อมส่วนลดดอกเบี้ยผ่อนดี สูงสุด 2% ทุกปี (เหลือต่ำสุด 13% ต่อปี) และหากผ่อนตามแผนที่แนะนำการันตีปิดหนี้ได้ใน 3 ปี

“ภารกิจเราปีนี้ คนดีต้องได้รางวัล คนมีปัญหาเราต้องช่วย ซึ่งโปรแกรมผ่อนดี…มีรางวัลนี้จะเปิดให้เข้าร่วมตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน – 31 สิงหาคม 2568 โดยลูกค้าทีทีบีปัจจุบันที่เป็นกลุ่มผ่อนดีก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เช่นกัน โดยตั้งเป้าลูกค้าบ้าน 1 หมื่นล้านบาท”

นายศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ทีทีบี กล่าวว่า ปีนี้ผู้ประกอบการธุรกิจไทยต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำและผันผวน ต้นทุนที่สูงขึ้น และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามท่ามกลางเศรษฐกิจดังกล่าวยังมีธุรกิจบางกลุ่มที่เติบโตได้ดี

ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนที่ดีก็จะเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้มากขึ้น โดยในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้จะมีการเปิดตัวบัญชีดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่ออกแบบเพื่อให้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าสำหรับเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ พร้อมกันนั้นทีทีบียังให้ความสำคัญด้านการสนับสนุนลูกค้าธุรกิจให้ก้าวผ่านสู่มาตรฐานการทำธุรกิจใหม่ที่ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมผ่าน Green Transition Solution