
ค่าเงินบาททรงตัว จับตามาตรการตอบโต้กำแพงภาษี ‘ทรัมป์’
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม 2568 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ (13/3) ที่ระดับ 33.75/76 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (12/3) ที่ระดับ 33.85/86 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
โดยในคืนที่ผ่านมา (13/3) กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.8% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.9% และต่ำกว่าระดับ 30% ในเดือน ม.ค. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.1% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.2% และต่ำกว่าจากระดับ 3.3% ในเดือน ม.ค.
นอกจากนี้ การตอบโต้มาตรการภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐ แคนาดา และสหภาพยุโรป ยังคงสร้างความกังวลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.พ.ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ต่อแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐต่อไป
ด้านปัจจัยในประเทศ วันนี้ (13/3) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เข้าหารือเกี่ยวกับเนื้อหาในญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังแจ้งให้ฝ่ายค้านแก้ไขเนื้อหาในญัตติ โดยนำชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากญัตติ โดยพรรคประชาชนจะมีการแจ้งรายละเอียดต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ ในวันพรุ่งนี้ (14/3)
นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือนโยบายภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ว่ารัฐบาลได้มีการตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ และจะมีการหารือเรื่องนี้กับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ด้วย โดยระหว่างวันการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอยู่ในกรอบระหว่าง 33.71/33.81 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 33.77/78 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวเปิดตลาดเช้านี้ (13/3) ที่ระดับ 1.0884/86 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (12/3) ที่ระดับ 1.0914/15 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า จะตอบโตกลับอียูและแคนาดา หลังวานนี้ (12/3) อียูประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ ตั้งแต่เดือน เม.ย. เป็นต้นไป เพื่อโต้กลับที่ก่อนหน้านี้สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตราภาษี 25%
โดยคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ระบุในแถลงการณ์ว่ามาตรการตอบโต้นี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องธุรกิจ คนงาน และผู้บริโภคชาวยุโรปจากผลกระทบของมาตรการคุมเข้มทางการค้าที่ไม่ยุติธรรม ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.0858-1.0897 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0874/76 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวเปิดตลาดเช้านี้ (13/3) ที่ระดับ 148.28/30 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (12/3) ที่ระดับ 148.60/62 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยนายโยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น แสดงความผิดหวังต่อการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมจากสหรัฐ หลังจากที่ได้มีการร้องขอยกเว้นไป
ซึ่งนายฮายาชิกล่าวในการแถลงข่าวว่า การที่ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าและอะลูมิเนียมคุณภาพสูงของญี่ปุ่นเข้าสู่สหรัฐ จะช่วยรักษาความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นจะเดินหน้าพูดคุยกับสหรัฐ ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงรายสำคัญ เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนอยู่ในกรอบระหว่าง 147.55-148.25 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 148.12/14 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่จะมีการรายงานในวันนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ PPI เดือน ก.พ. รวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ม.ค. ของอียู
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -7.35/-7.25 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -6.5/-5.7 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ