
ค่าเงินบาทวันนี้ (14 มี.ค. 68) เปิดตลาดแข็งค่าที่ระดับ 33.68 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบแนวรับที่ 33.50 บาท แนวต้าน 34.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 33.68 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 33.79 บาทต่อดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อคืนหลังจากที่ดอลลาร์ถูกเทขายเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ หลังเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิตมีเสถียรภาพ และราคาทองคำยังได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ต่างก็ชะลอตัวลงมากกว่าคาดในเดือน ก.พ. นอกจากนี้ ตลาดยังมีความกังวลในความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐ
จับตาการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (ชัตดาวน์) ในวุฒิสภาสหรัฐ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะต้องส่งให้ ปธน.ทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายภายในวันนี้ (14 มี.ค.) เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเรื่องนโยบายการปรับลดอัตราดอกเบี้ยประจำเดือน ก.พ. โดยดัชนี PPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบรายปีต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 3.3% จากระดับ 3.7% ในเดือน ม.ค. และเมื่อเทียบรายเดือน
ดัชนี PPI ทั่วไปไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเดือน ก.พ. หรือปรับตัว 0.0% ต่ำกว่าคาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือน ม.ค. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 3.6% จากระดับ 3.8% ในเดือน ม.ค.
นอกจากนี้ มีการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 220,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าคาดที่ระดับ 226,000 ราย
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานที่ผ่านนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 928 ล้านบาท และขายสุทธิตลาดพันธบัตรไทย 3,741 ล้านบาท
กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำอยู่ที่ 33.50-34.00 บาทต่อดอลลาร์ แนะนำ ทยอยซื้อที่ 33.50 / ขาย 34.00 บาทต่อดอลลาร์