
ธนาคารกสิกรไทย เผยสมาคมธนาคารไทยเตรียมหารือสมาชิกหาแนวทางช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติม คาดโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” จ่อขยายคุณลักษณะ-โปรดักต์เพิ่ม ย้ำคลังอยากให้ปล่อยสินเชื่อใหม่ พร้อมสนับสนุน แต่ขอเน้นลูกค้าเดิมที่รู้จัก-ทำธุรกรรมกับแบงก์บ้าง เชื่อช่วยอนุมัติสินเชื่อไว ลั่นธนาคารลดดอกเบี้ย MOR เยอะเหมาะสม หลังมีลูกหนี้ใช้วงเงินโอดีเยอะ
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารจะมีการประชุมร่วมกับสมาคมธนาคารไทย (TBA) และธนาคารสมาชิก เพื่อหารือแนวทางการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและธุรกิจ เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ดีขึ้น และจะมีการประชุมร่วมกับกระทรวงการคลังในวันพรุ่งนี้ 18 มีนาคม 2568
โดยเบื้องต้นแนวทางการช่วยเหลือมาตรการหลัก จะเป็นเรื่องของโครงการ ”คุณสู้ เราช่วย“ ซึ่งอาจจะมีการขยายลักษณะหรือเพิ่มหลักเกณฑ์ รวมถึงการเพิ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม ซึ่งอาจต้องรอรายละเอียดจากกระทรวงการคลังเพิ่ม อย่างไรก็ดี ภายหลังจากธนาคารโทรติดต่อลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พบว่ามีลูกค้าให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า แต่ยังไม่ได้ตามเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้
สำหรับในส่วนของแนวคิดที่กระทรวงการคลังต้องการให้ปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มเติมนั้น ธนาคารพร้อมให้ความร่วมมือ แต่การปล่อยสินเชื่อใหม่ธนาคารต้องการมุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าที่ธนาคารรู้จักหรือมีการเดินบัญชีหรือทำธุรกรรม (Transaction Banking) ผ่านธนาคารบ้าง เพื่อให้ธนาคารรู้จักลูกค้า เพื่อลูกค้าจะได้รับการอนุมัติสินเชื่อ (Approve) ได้เร็วขึ้น หรือลูกค้าใหม่ที่ไม่รู้จักอาจจะต้องให้ลูกค้ากลุ่มนี้หันไปใช้ธนาคารหลัก (Main Bank) ของตัวเองที่ใช้บริการอยู่ หรือแนวทางมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ธนาคารพร้อมสนับสนุน แต่จะต้องดูรายละเอียดและแนวทางการเข้าไปช่วยเหลือหรือกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น
“ภายใต้เศรษฐกิจขยายตัว 2.4% ภาพรวมสินเชื่อมีทั้งทรงตัวหรือดีขึ้น แต่จะเห็นว่าลูกค้าเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารมากขึ้นที่ไม่เกี่ยวกับโครงการคุณสู้ เราช่วย อย่างไรก็ดี แนวทางที่คลังอยากให้เราปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เราพร้อมสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อรายย่อย หรือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) แต่อาจจะต้องเป็นลูกค้าเดิม เราก็พร้อมจะช่วยเหลือและ Approve สินเชื่อได้เร็ว แต่หากเป็นลูกค้าใหม่อาจจะพิจารณารอบคอบหรืออยากให้กลับไปใช้เมนแบงก์“
นางสาวขัตติยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมสินเชื่อในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ หรือไตรมาสที่ 1/2568 อัตราการเติบโตสินเชื่อยังทรงตัว โดยสินเชื่อที่เห็นการเติบโตได้ดี จะเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อบัตรเครดิต ขณะที่สินเชื่อรายใหญ่คาดว่าน่าจะกลับมาเติบโตได้ภายในไตรมาสที่ 2-3 ส่วนหนึ่งมาจากลูกค้าและนักลงทุนอยากเห็นทิศทางและนโยบายของภาครัฐถึงโครงการลงทุนขนาดใหญ่
ส่วนการผ่อนคลายมาตรการกำกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) มองว่า ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หากมีการผ่อนคลายอาจจะช่วยได้บ้าง อย่างไรก็ดี ธนาคารมองว่าสินเชื่อบ้านยังพอไปได้ โดยกลุ่มที่ยังขยายตัวได้จะเป็นบ้านราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนราคาบ้านต่ำ 3 ล้านบาทอาจจะลำบาก เนื่องจากไม่มีดีมานด์ เพราะปัญหาหนี้ครัวเรือน
“เรื่องการปรับดอกเบี้ยของธนาคารกสิกรไทยจะเห็นว่าเราปรับดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชี หรือ MOR ค่อนข้างเยอะ 0.25% เนื่องจากเรามีลูกค้าใช้วงเงิน O/D ค่อนข้างเยอะ แต่จากกระแสภาคอสังหาริมทรัพย์มองว่าแบงก์ลดดอกเบี้ยน้อย ส่วนหนึ่งมาจากภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้ใช้ดอกเบี้ยดังกล่าว แต่ใช้หุ้นกู้หรือบอนด์ ซึ่งอาจไม่เกี่ยวกับแบงก์มากนัก“