Prachachat BITE SIZE โดย พฤฒินันท์ สุดประเสริฐ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา มีการเปิดเผยข้อมูลจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ระบุว่า ปี 2567 คนไทยมีเงินฝากรวมกว่า 16 ล้านล้านบาท แถมยังมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น ทั้งจากกลุ่มผู้ฝากเงิน ต่ำกว่า 5 หมื่นบาท และมากกว่า 100 ล้านบาท แต่คนไทยส่วนใหญ่ มีเงินในบัญชีราว 3 พันบาท
Prachachat BITE SIZE ชวนดูข้อมูลน่าสนใจ พร้อมไปทำความรู้จักว่า “สถาบันคุ้มครองเงินฝาก” คือใคร แล้วเกี่ยวอะไรกับเงินฝากของเรา
เปิดข้อมูลเงินฝากคนไทย ปี 2567
สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เปิดเผยข้อมูลว่า เงินฝากที่ได้รับการคุ้มครอง ณ สิ้นปี 2567 รวมกว่า 99.25 ล้านราย จำนวนเงินฝากรวม 16.32 ล้านล้านบาท
ปัจจุบันผู้ฝากที่ได้รับความคุ้มครองเต็มจำนวน ภายใต้วงเงินคุ้มครองไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อ 1 รายผู้ฝากต่อ 1 สถาบันการเงินอยู่ที่ 97.46 ล้านราย คิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ 98.20 ของผู้ฝากที่ได้รับความคุ้มครองทั้งระบบ
นอกจากนี้ มีข้อมูลว่า อัตราการเติบโตของเงินฝากในกลุ่มผู้ฝากที่เงินฝากน้อยกว่า 50,000 บาท มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นสูงที่สุดถึงร้อยละ 4.84 ทั้งนี้ปัจจัยการเพิ่มขึ้นของเงินฝากในผู้ฝากกลุ่มนี้มีผลมาจากโครงการเงินช่วยเหลือภาครัฐ ทำให้อัตราเงินฝากในเดือนกันยายน 2567 พุ่งขึ้นถึงร้อยละ 6.83 สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีในช่วงเดือนเดียวกัน ที่ร้อยละ 2.50
ในขณะที่ผู้ฝากกลุ่มที่มีเงินฝากมากกว่า 100 ล้านบาท มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นรองลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.70 ซึ่งคาดว่าเป็นการเพิ่มขึ้นในบัญชีประเภทเงินฝากประจำ เป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงการนำเงินมาพักเพื่อรอความชัดเจนของสภาพเศรษฐกิจ จึงส่งผลให้อัตราการเติบโตของเงินฝากกลุ่มนี้ยังคงเป็นบวกเมื่อเทียบกับปี 2566
อีกข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจ มีข้อมูลปี 2566 ระบุว่า คนไทยส่วนใหญ่มีเงิน 3,164 ต่อบัญชี ซึ่งลดลงจากปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 3,533 บาทต่อบัญชี หรือลดลง -10.44%
ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของเงินฝากในปี 2568 นี้คาดว่าจะอยู่ระหว่างร้อยละ 1 – 3 สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างช้าๆ เนื่องจากยังมีปัจจัยกระทบที่ไม่แน่นอนจากทั้งภายในและนอกประเทศ
“สถาบันคุ้มครองเงินฝาก” คือใคร ?
ถ้าใครยังจำได้ วิกฤต ‘ต้มยำกุ้ง’ เมื่อปี 2540 สร้างผลกระทบต่อระบบสถาบันการเงินอย่างมาก หลาย ๆ สถาบันการเงินต้องปิดตัว และกระทบต่อผู้มีเงินฝากกับสถาบันฯ ที่ปิดตัวลงในเวลานั้น
คณะรัฐมนตรีจึงได้ประกาศให้ความคุ้มครองผู้ฝากและเจ้าหนี้เต็มจำนวน โดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้รับหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นภาระต่อประเทศตามมาด้วย
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้นำเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อบังคับใช้ร่างกฎหมายและจัดตั้งสถาบันคุ้มครองเงินฝาก และมีการพิจารณามาอย่างต่อเนื่อง จนมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2551 โดยจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551
หน้าที่หลักของสถาบันฯ คือ การให้ความคุ้มครองเงินฝากกับลูกค้าทุกราย โดยเมื่อสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินดังกล่าว จะได้รับการจ่ายคืน จากสถาบันคุ้มครองเงินฝากในวงเงินคุ้มครองตามกฎหมาย
ปัจจุบัน มีทั้งธนาคารพาณิชย์ไทย ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของสถาบันฯ 32 แห่ง และกำหนดวงเงินในการคุ้มครองเงินฝากชัดเจน อยู่ที่ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อ 1 ราย ต่อ 1 สถาบันการเงิน
โดยผู้ที่ได้รับความคุ้มครอง คือ ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล เช่น บริษัท กองทุนต่าง ๆ มูลนิธิ วัด สมาคม สหกรณ์ บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และคุ้มครองเฉพาะกลุ่มเงินฝากสกุลเงินบาทไทย ทั้งเงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ บัตรเงินฝาก ใบรับเงินฝาก
โดยจะจ่ายให้ผู้ฝากเงินภายในระยะเวลา 30 วัน ส่วนเงินฝากที่เกินวงเงินคุ้มครองดังกล่าวนั้น ผู้ฝากเงินจะได้รับการเฉลี่ยคืนจากการชำระบัญชีสถาบันการเงินที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป
สคฝ. ได้เงินจากไหน ?
สำหรับการจ่ายเงินคืน กรณีสถาบันการเงินถูกปิด จะเป็นการนำมาจากเงิน “กองทุนคุ้มครองเงินฝาก” ซึ่งเป็นเงินที่รวบรวมจากเงินนำส่งของสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครอง
กองทุนคุ้มครองเงินฝาก ถูกจัดตั้งขึ้นตาม มาตรา 47 ของพ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551 เป็นเงินที่รวบรวมจากเงินนำส่งของสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครอง โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารเงินกองทุนนี้ สามารถนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง มีสภาพคล่องสูงและมีผลตอบแทนที่เหมาะสมเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เงินในกองทุนมีการเติบโต และเพิ่มพูนขึ้นจากดอกผลที่ได้รับจากการบริหารจัดการเงินกองทุนดังกล่าว
และปัจจุบันมูลค่าเงินกองทุนฯ อยู่ที่ 146,466.49 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ. 68)
ส่วนการมาของ Virtual Bank ในอนาคตอันใกล้นี้ สคฝ. ยืนยันว่า มีความพร้อมและมีเงินกองทุนเพียงพอในการค้ำประกันเงินฝากสำหรับ Virtual Bank ซึ่งจะเป็นไปตามเกณฑ์เดียวกับธนาคารพาณิชย์
ติดตาม Prachachat BITE SIZE EP.100 ได้ที่ https://youtu.be/fFcekPA3YAM
เข้าใจง่าย ได้ความรู้ ทุกสถานการณ์ข่าว กับ “Prachachat BITE SIZE” ชมรายการทุกตอนได้ที่ https://www.youtube.com/playlist?list=PLhWxYX6wkVyftML1tQUytMmiHS7mH08B_