
จุลพันธ์ลุยเดินหน้ากฎหมาย Entertainment Complex จบในรัฐบาลนี้ ปักธงตอกเสาเข็มภายใน 3 ปี มองใช้ที่ราชพัสดุเหมาะสม มั่นใจดันจีดีพีโต 3%
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า หลังจากร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. หรือ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ผ่านการเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา
โดยขั้นตอนต่อไปเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาในลำดับต่อไป ซึ่งต้องการทำกฎหมายให้เสร็จภายในสมัยรัฐบาลปัจจุบัน คาดว่าจะใช้เวลา 1 ปีในการดำเนินการต่าง ๆ และเชื่อมั่นว่าจะมีการตอกเสาเข็มภายใน 3 ปี จากนั้นจะมีการตั้งสำนักงาน โอนบุคลากร แล้วคณะกรรมการที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นประธาน และจ้างบริษัทเอกชนประเมินความเป็นไปได้ของโครงการ
“คาดว่ากฎหมายเสร็จใน 1 ปี และเชื่อมั่นว่าจะมีการตอกเสาเข็มภายใน 3 ปี ทั้งหมดต้องเสนอให้คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรพิจารณา ก่อนออกเป็น TOR เพื่อเปิดให้เอกชนที่มีความเหมาะสมเข้าร่วมประมูลโครงการ ซึ่งขั้นตอนการพิจารณาคงไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีจำนวนที่ตั้ง Entertainment Complex กี่แห่ง เพราะการทำกฎหมายต้องทำให้รอบคอบและโปร่งใสที่สุด” รมช.คลังกล่าว
สำหรับพื้นที่ในจัดตั้ง Entertainment Complex ต้องเป็นพื้นที่ที่รัฐกำหนด และควรเป็นพื้นที่ราชพัสดุ เนื่องจากสามารถรองรับการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ได้และหลีกเลี่ยงปัญหาการแข่งขันเชิงพื้นที่ โดยขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมอย่างน้อยควรอยู่ที่ 300 ไร่ ขณะที่พื้นที่กาสิโนมีเพียง 10% ส่วนที่เหลือจะเป็นพิพิธภัณฑ์ โรงแรม จะต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ขณะนี้มีบริษัทต่างชาติระดับโลกที่แสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุน และเชื่อว่าจะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาร่วมประมูลจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้แข่งขันทั้งในเชิงคุณภาพและราคา เนื่องจากเห็นศักยภาพของประเทศไทยเมื่อเทียบกับหลายประเทศ และมีความมั่นใจในความคุ้มค่าของการลงทุนในโครงการนี้ เมื่ออนุมัติออกใบอนุญาตแล้วก็จะมีเม็ดเงิน 1 แสนล้านบาทเข้ามา ทั้งนี้ หาก Entertainment Complex เกิดขึ้นจะมีผลต่อเศรษฐกิจไทย โดยจะไม่ต้องมากังวลว่าจีดีพีจะโตได้ 3% หรือไม่ เพราะเม็ดเงินภาคการท่องเที่ยวและรายได้ต่อหัวที่เพิ่มขึ้นแน่นอน