กรุงศรีฯ คาดเงินบาทซื้อขาย 33.70-34.30 บาท ลุ้นสหรัฐ ประกาศกำแพงภาษี          

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.70-34.30 บาทต่อดอลลาร์ เผยนักลงทุนประเมินผลของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐ และท่าทีจากคู่ค้าจะตอบโต้อย่างไรในวันที่ 2 เมษายนนี้ พร้อมประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจและท่องเที่ยวจากแผ่นดินไหว  

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.70-34.30 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.83-34.05 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ยกเว้นเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยนักลงทุนพยายามประเมินผลของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐ รวมถึงท่าทีจากคู่ค้าต่าง ๆ ว่าจะตอบโต้อย่างไร หลังประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามคำสั่งเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 2 เมษายน และภาษีชิ้นส่วนรถยนต์จะเริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 3 เมษายน ขณะที่รายงานตัวเลขจีดีพีรอบสุดท้ายบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.4% ในไตรมาส 4/67 สูงกว่าคาดเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมีนาคมย่ำแย่กว่าคาด ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) เพิ่มขึ้นเกินคาดที่ 2.8% ในเดือนกุมภาพันธ์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 4,106 ล้านบาท และ 1,845 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับประเด็นภาษีศุลกากรตอบโต้ซึ่งกันและกัน (Reciprocal Tariff) ของทรัมป์ รวมถึงตัวเลขภาคบริการและตลาดแรงงานเดือนมีนาคมของสหรัฐ อนึ่ง ในการกำหนดระดับ Reciprocal Tariff รัฐบาลทรัมป์ได้อ้างถึงหลายปัจจัย อาทิ ส่วนต่างภาษีของสหรัฐกับคู่ค้า, อุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี, การบิดเบือนอัตราแลกเปลี่ยน และการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมอื่น ๆ ในภาวะเช่นนี้ทำให้ผู้ร่วมตลาดประเมินลำบากว่าในวันที่ 2 เมษายน สหรัฐจะประกาศอัตราภาษีสำหรับคู่ค้าแต่ละรายที่ระดับใด และบนพื้นฐานของตัวชี้วัดใด

โดยเรามองว่าเงินดอลลาร์อาจได้แรงหนุนในไตรมาส 2/68 อย่างไรก็ตาม  เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในจุดของวัฏจักรที่การเติบโตเข้าสู่ช่วงชะลอตัวอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เราจึงเชื่อว่าดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าอย่างจำกัดก่อนที่จะอ่อนลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยเฉพาะหากมีสัญญาณตลาดแรงงานอ่อนแอลง

ADVERTISMENT

สำหรับปัจจัยในประเทศ นักลงทุนจะประเมินผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาคท่องเที่ยวจากเหตุแผ่นดินไหว เราคาดว่าทางการจะดำเนินมาตรการช่วยเหลือเฉพาะจุดเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ยังมีรายงานข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงเงินเฟ้อเดือนมีนาคมในสัปดาห์นี้

 

ADVERTISMENT