ตลท.-ก.ล.ต. เร่งปลุกเชื่อมั่น SET วอนมั่นใจพื้นฐาน บจ.ไทย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ

“ตลท.-ก.ล.ต.” ห่วงนักลงทุนตื่นตระหนก เร่งปลุกเชื่อมั่น SET “อัสสเดช” วอนมั่นใจพื้นฐาน บจ. ไทย ชี้เหตุแผ่นดินไหวไม่กระทบพื้นฐาน บจ.ไทย-ระยะยาวยังแข็งแรง รับพร้อมใช้ Circuit Breaker หากดัชนีลงตามเกณฑ์ ขณะที่ “พรอนงค์” มั่นใจระบบตลาดทุนมีเสถียรภาพ แนะนักลงทุนไตร่ตรองข้อมูลข่าวสารรอบคอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ หน่วยงานด้านตลาดทุน ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เข้าร่วมแถลงการณ์ร่วมภาคเศรษฐกิจจริงและระบบทางการเงิน จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว (28 มี.ค. 68)

โดยนายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนในภาพรวมยังคงแข็งแกร่ง ในภาพรวมของภาคธุรกิจสามารถรับมือกับสถานการณ์และดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ไม่กระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทจดทะเบียนไทย

ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯเตรียมความพร้อมระบบและการดำเนินการทุกด้าน รวมทั้งประสานงานใกล้ชิดกับบริษัทสมาชิกและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจสำหรับการเปิดการซื้อขายในทุกตลาดในวันนี้
“ความตั้งใจในวันนี้เพื่ออยากให้ข้อมูลและวิเคราะห์ให้มั่นใจในข้อมูลและเสถียรภาพเศรษฐกิจไทย เนื่องจากในวันนี้มีปัจจัยในต่างประเทศเข้ามาด้วย อย่างตลาดหุ้นญี่ปุ่นลบประมาณ 4% ตลาดหุ้นไต้หวัน ติดลบประมาณ 2% ดังนั้นอยากให้นักลงทุนมั่นใจในพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนไทย และต้องมีความมั่นใจและให้วิเคราะห์ข่าวสารอย่างถี่ถ้วน ซึ่งในระยะยาวถ้าเราไม่แพนิก เชื่อว่าธุรกิจของไทยยังสามารถแข่งขันได้”

โดยที่ผ่านมา ไทยมีการเติบโตในปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจมาโดยตลอด ณ วันนี้แม้มีการเปลี่ยนแปลงภูมิภาค หรือสงครามการค้า ถ้ากลับมาดูความสามารถในการแข่งขัน มองว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง
ส่วนในเรื่อง Circuit Breaker หรือการหยุดการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว ต้องดูที่ระดับมาตรฐาน โดยดัชนีต้อง -8% ถึงจะหยุดการซื้อขายได้

“ในแง่ของธุรกิจยังดำเนินงานได้ปกติ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมว่าธุรกิจพื้นฐานของไทยยังแกร่งและยังดำเนินการได้อยู่” นายอัสสเดชกล่าว

ADVERTISMENT

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า สิ่งที่สำนักงาน ก.ล.ต.กังวล คือ ภาวะที่เกิดการตื่นตระหนก (Panic) หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดย ก.ล.ต.ได้ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้อง และให้ความมั่นใจว่าระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน ตลอดจนตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถดำเนินการและให้บริการได้อย่างปกติ พร้อมทั้ง ก.ล.ต.ได้ผ่อนผันการนำส่งข้อมูลของผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแล รวมทั้งบริษัทจดทะเบียนและบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว

“เรามีความมั่นใจว่าระบบตลาดทุน มีเสถียรภาพ สามารถเชื่อมั่นได้ โดยระบบแผนสำรองฉุกเฉิน ได้ถูกนำมาใช้ในทุกระดับอย่างมีประสิทธิภาพ อยากให้นักลงทุนไตร่ตรองข้อมูลข่าวสารอย่างรอบคอบ และมั่นใจว่าทุกอย่างยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแล เรากลับสู่ภาวะปกติ (Back to Normal)“

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการ Thai ESGX ยังดำเนินการได้ปกติ โดยในวันที่ 1 พ.ค.นี้ กองทุน Thai ESGX ก็จะเกิดขึ้น และจะมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุน รวมไปถึงระบบการซื้อขายที่มีความยุติธรรม (Fair) หรือไม่ ฉะนั้นจึงเชื่อว่าระบบทุกอย่างช่วยตลาดหุ้นไทยสู้กับปัจจัยเสี่ยงข้างนอกได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ยอมรับว่าจะห้ามความวิตกกังวลคงยาก แต่อยากให้แยกว่าตอนนี้ในตลาดทุนมีการกระจายกับข่าว แผ่นดินไหวที่ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่ง แต่นโยบายทางด้าน Geopolitical หรือ Trade War ก็ยังเป็นปัจจัยที่ส่งความเสี่ยงหลัก ดังนั้น น่าจะเป็นเรื่องของปัจจัยอื่น ซึ่งปัจจัยเหล่านั้น

“แน่นอนตลาดทุนอย่างเราก็อาจจะมีผลกระทบอยู่บ้าง แต่ถ้านักลงทุนแยกแยะข่าวต่าง ๆ ได้ ก็เชื่อว่าเราน่าจะมีความยืดหยุ่น (Resilience) ได้ดี ส่วนกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและอสังหาฯ เรื่องราคาอาจจะพูดไม่ได้ แต่ ก.ล.ต.ติดตามในทุกภาวะ หากดูเรื่องเสถียรภาพ ได้ติดตามและสอบถามทุกด้านเช่นกัน ดังนั้น ขอให้ทุกคนพิจารณาข้อมูลจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับปัจจัยด้านการลงทุน เพราะหากดูสถานการณ์ตลาดหุ้นในต่างประเทศวันนี้ ซึ่งไม่ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวก็ปรับตัวลงจากปัจจัยเกี่ยวกับมาตรการทางภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีความชัดเจนในวันที่ 2 เม.ย.นี้”