“วิริยะ” ปั๊มเบี้ยประกันขนส่ง แซงยุ่นดันพอร์ตขึ้นเบอร์ 3

“วิริยะประกันภัย” ปั๊มเบี้ยประกันความรับผิดของผู้ขนส่ง ปักหมุด 3 ปี เพิ่มปีละ 10% สิ้นปี’64 เบี้ยแตะ 700 ล้านบาท หนุนพอร์ตประกันภัยทางทะเลและขนส่งแซงยุ่นขึ้นแท่นเบอร์ 3 รุกขยายงานลูกค้าเดิมโกยเบี้ยปีนี้ 400 ล้านบาท

นายวิญญู อังศุนิตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.วิริยะประกันภัย เปิดเผยว่าในปี 2561 นี้ บริษัทตั้งเป้าเบี้ยรับประกันภัยความรับผิดของผู้ขนส่ง (carrier”s liability) ที่ 400 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน และคาดหวังว่าภายใน 3 ปี (2561-2564) เบี้ยประกันนี้จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% ต่อปี หรือสิ้นปี 2564 จะอยู่ที่ 600-700 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้พอร์ตประกันภัยทางทะเลและขนส่งของบริษัทขึ้นแท่นเป็นอันดับ 3 แซงหน้าประกันสัญชาติญี่ปุ่นที่อยู่ 3 อันดับแรกในปัจจุบัน ขณะที่บริษัทอยู่ในอันดับ 4

ทั้งนี้ บริษัทเน้นขยายพอร์ตด้วยการเข้าไปรับประกันรถบรรทุกสินค้า (fleet) ที่ทำประกันภาคสมัครใจกับบริษัทอยู่แล้ว 4.1 แสนคัน ซึ่งในจำนวนนี้ทำประกันความรับผิดของผู้ขนส่งแค่ 40,688 คัน หรือ 9% ซึ่งคาดจะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 20% หรือราว 60,000 คัน

นายสรายุทธ พุ่มศรี รองผู้จัดการฝ่ายประกันภัยน็อนมอเตอร์ด้านรถยนต์ บมจ.วิริยะประกันภัย กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะรุกขยายลูกค้าฟลีตเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 60% ของลูกค้าประกันขนส่งทั้งหมดที่มี 4 หมื่นคน ซึ่งลูกค้าจะเป็นคลังสินค้าเซเว่นอีเลฟเว่นของ จ.ปทุมธานี กว่า 2,000 คัน และของ จ.ขอนแก่น กว่า 700 คัน, บริษัทนิ่มซี่เส็งขนส่งสินค้าทางเหนือ, แม็คโคร, เคอรี่เอ็กซ์เพรส, นิ่มเอ็กซ์เพรส นอกจากนี้ ยังกำลังเจรจากับคลังสินค้าเซเว่นอีเลฟเว่น จ.ลำพูน และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และจะเจรจาดีลกับเทสโก้ โลตัสเพิ่มด้วย

โดยสินค้าหลักที่รับประกัน มีทั้งขนส่งผักและผลไม้ 30% สินค้าโชห่วย/เครื่องใช้ไฟฟ้า 20% แล้วยังมีสินค้าเสี่ยงอย่างสารเคมี/แก๊ส โดยจะให้ผู้เอาประกันรับผิดชอบในส่วนแรก (deductible) สำหรับผู้ขนส่งผักและผลไม้ประมาณ 20% เนื่องจากเคลมค่อนข้างสูง ในขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคอยู่ที่ 10% ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีศูนย์สินไหมรองรับบริการกว่า 131 แห่ง พนักงานสำรวจภัยและเก็บกู้ซากสินค้าที่สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้เร็วเกือบ 3,000 คน รวมถึงตัวแทนขาย 13,000 คน ที่มีอำนาจในการตัดสินใจรับประกันได้เอง ซึ่งเป็นสิ่งที่คู่แข่งยังทำไม่ได้


“ปัจจุบันตลาดแข่งขันราคากันดุเดือด บางเจ้าดัมพ์เบี้ยลงไปกว่า 40-50% ซึ่งจะเห็นว่าสุดท้ายแล้วก็อยู่ไม่ได้ ต้องขายงานออกมาเพราะไม่มีเรื่องของบริการ ซึ่งเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะเข้ามาหาเราเพิ่มขึ้น” นายสรายุทธกล่าว