
ธอส. เผยหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว กระทบภาคอสังหาฯ แค่ระยะสั้น มั่นใจลูกค้าไม่ทิ้งใบจองหรือยกเลิกสัญญาอย่างที่กังวล เชื่อมั่นกลับมาโอนซื้อคอนโดฯปกติ
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึง ทิศทางและมาตรการส่งเสริมที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์ว่า สำหรับปัจจัยบวกต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ได้แรงหนุนจากมาตรการ ปลดล็อกมาตรการ LTV (Loan to Value) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะช่วยให้กลุ่มที่มีกำลังซื้อกู้บ้านหลังที่ 2 ได้ 100% และช่วยให้ภาคอสังหาริมทรัพย์กลับมาดีขึ้นได้ ตลอดจนมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลืออย่างละ 0.01% สำหรับการซื้อบ้านที่ไม่เกินราคา 7 ล้านบาท
ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะออกมาตรการของช่วยสนับสนุนสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม ทั้งนี้ เห็นได้จากยอดการปล่อยสินเชื่อของ ธอส. ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาสแรก ปล่อยกู้ไปแล้ว 46,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 12,000 ล้านบาท โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบ หรือบ้านเดี่ยวทาวน์เฮาส์ที่มีการเติบโตถึง 20% โดยในภาพรวมของ ธอส.ยังคงมองว่า สามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ในปี 2568 มากกว่าปีก่อน โดยตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 240,000 ล้านบาท
และอีกส่วนหนี่งมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.2-3.2% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น การขยายตัวของอุปสงค์ของภาคเอกชนในประเทศตามแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นของการลงทุนภาคเอกชน และการขยายตัวต่อเนื่องของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน
ขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำและมีแนวโน้มปรับลดลง ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อของประชาชน
สำหรับปัจจัยลบ ประกอบด้วย หนี้สินภาคครัวเรือนแม้ว่าจะเริ่มปรับตัวลดลง แต่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ความสามารถในการใช้จ่ายของประชาชนลดลง เกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อที่รัดกุมของธนาคารพาณิชย์
ทั้งนี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหว 28 มีนาคม 2568 ทำให้ความเชื่อมั่นในการอยู่อาศัยห้องชุดลดลง อาจส่งผลกระทบทางจิตวิทยา ทำให้มีการชะลอการซื้อห้องชุดในระยะหนึ่ง โดยล่าสุดเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว ซึ่งพบว่ายอดปริมาณการทำนิติกรรมการโอนอาคารชุด ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีการโอนเฉลี่ยถึงวันละ 400 ราย ทั้งนี้ ทาง ธอส.จะออกมาตรการดูแลเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าต่อไป
“ยอมรับว่าในช่วงวันแรก หลังเกิดแผ่นเหตุแผ่นดินไหว มีลูกค้าชะลอการตัดสินใจโอนคอนโดฯไปบ้าง แต่เป็นแค่ช่วงระยะสั้น และเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาเรื่องการทิ้งใบจองหรือยกเลิกสัญญาอย่างที่กังวลแต่อย่างใด เนื่องจากตอนนี้ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของบ้านเดี่ยวทาวน์เฮาส์รวมถึงคอนโดมิเนียม” นายกมลภพกล่าว
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จากความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐ และส่งผลต่อเสถียรภาพของตลาดเงิน การลงทุน และนโยบายทางภูมิรัฐศาสตร์
นายกมลภพกล่าวว่า การดำเนินงานของ ธอส. หลังจากนี้จะให้ความสำคัญเพิ่มเติมหลังจากนี้ คือ บ้านแนวราบและบ้านมือสอง เพราะลูกค้าอาจยังมีความกังวลกับการที่อยู่อาศัยแนวสูง และยังพบว่ามีถึงเกือบ 900,000 ครัวเรือน ที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ แต่ยังไม่มีบ้านเป็นของตนเอง