ตลท. งัดเกณฑ์ใหม่ สกัดหุ้นไทยดิ่งหนัก โบรกชี้ SET เสี่ยงหลุด 1,100 จุด

ตลาดหุ้น

ตลท. งัดเกณฑ์ใหม่สกัดหุ้นไทยดิ่งหนัก บล.ทิสโก้ ชี้เปิดตลาดเช้านี้ดัชนี SET เสี่ยงหลุด 1,100 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด รายงานว่า ตามที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ประชุมนัดพิเศษเมื่อวานนี้ (7 เม.ย. 2568) โดยมีมติอนุมัติปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor (กรอบการซื้อขายที่ราคาสูงสุด/ต่ำสุดของวัน) ปรับเกณฑ์ Dynamic Price Band (การกำหนดกรอบราคาซื้อขายหุ้นรายหลักทรัพย์) และการห้ามขายชอร์ตเป็นการชั่วคราว มีรายละเอียดดังนี้

  1. ปรับ Ceiling & Floor จากเดิม +/-30% เป็น +/-15%
  2. ปรับ Dynamic Price Band รายหลักทรัพย์จากเดิม +/-10% เป็น +/-5%
  3. ห้ามขายชอร์ตทุกหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว ยกเว้น Market Maker

“ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เหตุผลว่า เนื่องจากการประกาศใช้นโยบายภาษีใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก จนมีการปรับตัวลดลงอย่างมาก เพื่อให้มีมาตรการรองรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ผู้ลงทุนมีโอกาสในการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น”

โดยมาตรการเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้ 4 วัน นับตั้งแต่ 8-11 เม.ย. 2568 หรือในช่วงสัปดาห์นี้ แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจปรับเปลี่ยนเกณฑ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์

ประเด็นนี้ฝ่ายวิจัยทิสโก้เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยเสริมเสถียรภาพของตลาดหุ้นและสร้างความมั่นใจในการลงทุนได้ในระดับหนึ่ง หลังจากที่การซื้อขายตลาดหุ้นภูมิภาคววานนี้ (7 เม.ย.) ส่วนใหญ่ปรับตัวลงมากกว่า 4% โดยตลาดหุ้นฮ่องกง -13.2%, จีน -7.3%, ญี่ปุ่น -7.8%, ไต้หวัน -9.7%, เกาหลีใต้ -5.5%, มาเลเซีย -4% และ ฟิลิปปินส์ -4.3%

หากอิงการปรับตัวลงของตลาดหุ้นภูมิภาคในวานนี้และการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐในตลาดล่วงหน้า หุ้นไทยกลับมาเปิดตลาดวันนี้ (8 เม.ย.) มีโอกาสปรับตัวลงทดสอบระดับ 1,100 จุด หรือต่ำกว่าในระยะสั้น แต่มองเป็นจังหวะสะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงยาว

ADVERTISMENT

โดยหุ้นเชิงกลยุทธ์ที่คาดจะ Outperform กว่าตลาดคือ กลุ่มค้าปลีก (หุ้นเด่น CPALL, CPAXT, BJC, HMPRO), กลุ่มโทรคมนาคม-ขนส่งมวลชน (ADVANC, BEM), กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, PR9), กลุ่มธนาคาร (KTB, TTB) และกลุ่มรีท-กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน-หุ้นปันผล (PROSPECT, BTSGIF, DMT, EGCO) เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นหุ้นอิงเศรษฐกิจภายในประเทศ ทำให้ได้รับผลกระทบจำกัดจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรง มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีปันผลระดับที่น่าสนใจ

สำหรับกลุ่มที่คาดว่าจะ Underperform กว่าตลาดคือ กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี (หุ้นน้ำมันและโรงกลั่น), กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มบรรจุภัณฑ์ (SCGP อิงเศรษฐกิจในภูมิภาค), กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC ที่มีธุรกิจปิโตรเคมีเป็นตัวถ่วง)

ADVERTISMENT

สำหรับดัชนี SET ปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ (4 เม.ย. 2568) ปิดที่ 1,125.21 จุด ลดลง 36.60 จุด หรือ -3.15% เมื่อเทียบกับดัชนีวันก่อนหน้า โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 48,286 ล้านบาท แรงขายมาจากนักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 6,398.76 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 2,701.80 ล้านบาท

ทั้งนี้หากนับจากต้นปีถึงปัจจุบัน (4 เม.ย. 2568) ดัชนี SET ปรับตัวลดลง 275 จุด หรือ -19.64% ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 4 เม.ย. 2568 ที่ดัชนีปิดที่ 1,125.21 จุด ถือเป็นระดับต่ำสุดของปีนี้