KTC ไตรมาส 1/68 กำไร 1.86 พันล้าน เพิ่ม 3.2% ตั้งเป้ายอดรูดโต 10%

KTC Card บัตรเครดิต การใช้จ่าย เคทีซี บัตรกรุงไทย

“บัตรกรุงไทย” ไตรมาสแรกปี 68 โกยกำไรสุทธิ 1.86 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2% ปีนี้ตั้งเป้ากำไรมากกว่า 7.4 พันล้านบาท ยอดรูดบัตรโต 10% พอร์ตสินเชื่อรวมขยายตัว 4-5% NPL รวมไม่เกิน 2%

บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 1,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) ที่มีจำนวน 1,803 ล้านบาท

ขณะที่งบการเงินเฉพาะกิจการของเคทีซี มีกำไรสุทธิ 1,877 ล้านบาท ลดลง 0.9% YOY เนื่องจากในปี 2567 บริษัทมีการรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทร่วม 82 ล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าว เคทีซีจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 2.7%

ในไตรมาส 1/2568 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 6,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% YOY มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ รายได้ค่าธรรมเนียมด้านร้านค้า รายได้จากการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า และรายได้ค่าธรรมเนียม Interchange

ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยและหนี้สูญได้รับคืนลดลงเล็กน้อย ค่าใช้จ่ายรวม 4,433 ล้านบาท ลดลง 1.6% จากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและต้นทุนทางการเงินที่ลดลง สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริหารรวมสูงขึ้น หลัก ๆ จากค่าธรรมเนียมจ่ายเพิ่มขึ้นตามปริมาณธุรกรรม และค่าใช้จ่ายด้านการตลาด ทั้งนี้มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมอยู่ที่ 35.1%

ADVERTISMENT

สิ้นไตรมาส 1/2568 กลุ่มบริษัทมีพอร์ตสินเชื่อรวม 107,093 ล้านบาท ขยายตัวที่ 1.7% YOY แบ่งเป็นพอร์ตบัตรเครดิต เพิ่มขึ้น 1.5% โดยมีอัตราการขยายตัวของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ 6.7% และพอร์ตสินเชื่อบุคคลรวมเติบโตที่ 5.2%

เคทีซียังสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี มี NPL Coverage Ratio ของงบการเงินเฉพาะกิจการอยู่ในระดับสูงที่ 449.5% ขณะที่อัตราส่วน NPL (% NPL) อยู่ที่ 1.58% ลดจากสิ้นปีที่ 1.64% สำหรับกลุ่มบริษัทมี NPL Coverage Ratio อยู่ในระดับสูงเช่นกันที่ 384.5% และ % NPL ของกลุ่มบริษัท 1.97% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปีซึ่งอยู่ที่ 1.95% สำหรับไตรมาส 1/2568 Credit Cost ของกลุ่มบริษัทลดลงเป็น 6.0% จาก 6.4% ในช่วงเดียวกันของปี 2567

นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังมีอัตราส่วนทางการเงินที่แข็งแกร่ง อาทิ อัตรากำไรสุทธิสูงขึ้นเป็น 27.2% อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับสูงที่ 18.3% และอัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพียง 1.58 เท่า และด้วยความสามารถในการรักษาเสถียรภาพในทุกช่วงวงจรธุรกิจสะท้อนได้จากความสามารถในการสร้างผลกำไร มีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี และการรักษาตำแหน่งทางการตลาด บริษัท ทริสเรทดิ้ง จำกัด จึงได้เพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันเป็น “AA” จาก “AA-” ในวันที่ 9 เมษายน 2568

ทั้งนี้ เคทีซียังคงให้ความสำคัญในการขยายพอร์ตสินเชื่อรวมไปพร้อม ๆ กับการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ เพื่อให้กลุ่มบริษัทบรรลุเป้าหมายตามแผนธุรกิจที่ตั้งไว้ ภายใต้กรอบการให้สินเชื่อด้วยความรับผิดชอบและเป็นธรรม

สำหรับในปี 2568 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเทคโนโลยี กลุ่มบริษัทมีความยืดหยุ่น สามารถรองรับและปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่ผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันกลุ่มบริษัทยังคงตั้งเป้ามูลค่ากำไรสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ากำไรสิ้นปีมากกว่า 7,437 ล้านบาท มีเป้าอัตราเติบโตของการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ 10% การเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรวมที่ขยายตัวประมาณ 4-5% โดยกำหนดพอร์ตลูกหนี้ KTC PROUD ขยายตัวที่ 3% ยอดลูกหนี้ใหม่ของสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงินที่ 3,000 ล้านบาท และ % NPL รวมไม่เกิน 2.0%

แม้สภาวะเศรษฐกิจมีความอ่อนตัวลงมากกว่าที่คาด บริษัทเชื่อว่ากลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล รวมถึงการคัดกรองคุณภาพพอร์ต จะสามารถทำให้เคทีซีบรรลุเป้าหมายที่ตั้้งไว้ในที่สุด