
บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินหุ้นไทยวันนี้ แกว่งตัวขึ้นตามทิศทางตลาดภูมิภาค แนวรับ 1,135 จุด แนวต้าน 1,155 จุด นักลงทุนคลาย กังวลความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน หลังทรัมป์ระบุเรียกเก็บภาษีจีนจะไม่สูงถึง 145% พร้อมรอความชัดเจนการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐฯ อีกครั้ง
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด รายงานว่า คาด SET แกว่งตัวขึ้นตามทิศทางตลาดภูมิภาค นักลงทุนคลาย กังวลความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน หลัง ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุภาษีขั้นสุดท้ายที่เรียกเก็บจากจีนจะไม่สูงถึง 145% รวมทั้งความคาดหวังทั้ง 2 ประเทศกลับมาเจรจา
อย่างไรก็ตามมอง Upside ของ SET ยังจำกัด โดยยังต้องรอความชัดเจนถึงกำหนดการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐฯ อีกครั้ง ประเมินแนว รับที่ 1,135-1,130 จุด แนวต้านที่ 1,155-1,160 จุด
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม
– IMF ลด GDP โลกปี 2568 จาก 3.3% เหลือ 2.8% จากผลกระทบนโยบายภาษีสหรัฐ ส่วน GDP สหรัฐลดลงสู่ 1.8%, จีน 4.0%, ยุโรป 0.8% และไทย 1.8% ต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียคลังสหรัฐคาดความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า เชื่อจะช่วยผ่อนคลายความกังวลให้ตลาดทั่วโลก
– รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่โดยมุ่งเป้าไปที่เซเอ็ด อาชาดุลลาห์ เอมามจอเมห์ ซึ่งมีเครือข่ายขนส่งก๊าซ LPG และน้ำมันดิบ อิหร่านหลายร้อยล้านดอลลาร์อย่างไรก็ดีตลาดจับตาการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่านในวันที่ 26 เม.ย.
* นายกฯ สั่ง มหาดไทย, ต่างประเทศและท่องเกี่ยวฯ ศึกษาการปรับมาตรการฟรีวีซ่าให้พำนัก 60 และ 90 วัน หลังพบการทำงานแบบผิด กฏหมายประเมิน ว่าจะไม่กระทบต่อการเดินทางเข้าไทย โดยเฉลี่ย นักท่องเที่ยว พำนักราว 10 วัน
* รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เผยสาเหตุการเลื่อนเจรจาเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐฯออกไปเพื่อรอดูสถานการณ์และศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ และได้ส่งทีม ล่วงหน้าไปร่วมทำงานกันคณะทำงานของสหรัฐฯ เพื่อปรับความเข้าใจให้ตรงกันก่อนการเจรจา
* รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเผยเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 รับเงินหมื่นก่อนสิ้นเดือน มิ.ย. คาดบรรจุวาระเข้า ครม. พิจารณาภายใน 1-2 สัปดาห์นี้
* ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม มี.ค. ลดลงสู่ 91.8 จากผลกระทบแผ่นดินไหวซึ่งทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว, ภาคยานยนต์ชะลอตัว และกำแพงภาษีเหล็ก-อลุมิเนียมที่มีผลแล้ว ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะจากจีนและมาเลเชีย
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน
มอง SET แกว่งตัวผันผวนและการซื้อขายยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง จากกังวลความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐ และรอติดตามการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีน กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 1 ธีมเทรดดิ่ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY 2) ฐานะการเงินแคร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดให้ Div. Yield อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้นน่าสนใจ SET50: ADVANC BBL BDS CPALL PTT และ SET100 : BCH BTG
2. หุ้น Undervalued ซึ่งปัจจุบันซื้อขายที่ PER และ PBV 68F ระดับต่ำกว่า -1SD และมี SET ESG Rating ระดับ A-AAA ขณะที่ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ดี YoY และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง อีกทั้งมีศักยภาพจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อยปีละ 3% แนะนำ BJC CPF AP HMPRO OR
3. Trading Idea : นักลุงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรภายใต้สงคราบการค้าที่มีทำทีรุนแรงขึ้น แนะนำ หุ้นที่มีรายได้ภายในประเทศเป็นหลักซึ่งจะต้านทานความ ผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ดีกว่า โดยเฉพาะหากสามารถกำหนดราคาและส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขั้นได้
อีกทั้งคาดจะได้ประโยชน์จากการปรับลงของราคาน้ำมันและดอกเบีย ได้แก่ BCH CPALL CPAXT GULF MTC OR และ TRUE ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่มที่ได้ผลกระทบทางตรงจากส่งออกไปสหรัฐ ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ยาง สินค้าเกษตร เครื่องประดับ และกลุ่มที่ได้ผลกระทบทางอ้อม ได้แก่ นิคม ท่องเที่ยว ธนาคาร