ทองร่วงแรง “ฮั่วเซ่งเฮง” ชี้อยู่ในช่วงปรับฐาน แนะจุดเข้าซื้อทำกำไร

ทองคำ ทองรูปพรรณ

ราคาทองคำปรับลดลงแรงกว่า 1,800 บาท Gold Spot อยู่ที่ 3,318.00 ดอลลาร์ หลังขึ้น All Time High ที่ 3,500 ดอลลาร์ “ฮั่วเซ่งเฮง” ชี้ เกิดแรงขายทำกำไรนักลงทุนคลายกังวลสงครามการค้า คาดยังอยู่ในช่วงปรับฐาน แนวรับ 3,250 ดอลลาร์ เป็นจุดเข้าสะสม 

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาทองประจำวันนี้ (23 เม.ย. 2568) ร่วงลง 1,850 บาท เมื่อเทียบกับราคาปิดวานนี้ โดยราคาทองรูปพรรณขยับมาอยู่ที่บาทละ 53,400 บาท ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของสมาคมค้าทองคำ หรือ Gold Traders Association ณ เวลา 14.43 น. ที่ผ่านมาทองคำแท่งมีราคารับซื้อในประเทศอยู่ที่บาทละ 52,500 บาท ขายออกบาทละ 52,600 บาท ตามประกาศครั้งที่ 32 ของวันนี้

ด้านราคาทองรูปพรรณ รับซื้ออยู่ที่บาทละ 51,559.16 บาท ขายออกที่ราคา 53,400 บาท ส่วนราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot อยู่ที่ 3,318.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นางศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สาเหตุที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงนั้น มาจาก 2 สาเหตุ ได้แก่ 1.เกิดจากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ผ่านมาราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างสูงและรวดเร็วจาก 3,000 ดอลลาร์ ไปถึง 3,500 ดอลลาร์ ใช้เวลาเพียงราว 39 วันเท่านั้น และให้ผลตอบแทนสูงถึง 30% ทำให้มีแรงเทขายทำกำไรออกมา โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 1,000 ดอลลาร์ และทำ All Time High ที่ราคา 3,500 ดอลลาร์

ปัจจัยที่ 2.เกิดจากนักลงทุนคลายความกังวลในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐ คาดว่าความขัดแย้งด้านการค้าสหรัฐและจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า แม้การเจรจากับจีนมีแนวโน้มว่าจะยืดเยื้อ แต่ทั้งจีนและสหรัฐต่างก็ไม่คิดว่าจะปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไป โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะสังเกตได้ว่าตลาดหุ้นปรับเพิ่มขึ้น ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น

โดยฮั่วเซ่งเฮงมองแนวโน้มราคาทองคำวันนี้ “คาดลงทดสอบ 3,250 ดอลลาร์” โดยให้แนวรับที่ 3,250-3,200 ดอลลาร์ และแนวต้านที่ 3,380-3,425 ดอลลาร์ ส่วนทองคำแท่ง แนวรับที่ 53,000-52,500 บาท แนวต้านที่ 54,500-54,800 บาท

ADVERTISMENT

โดยระยะสั้นประเมินว่าราคาทองคำยังอยู่ในช่วงการปรับฐาน แนะนักลงทุนใจเย็นรอติดตามสถานการณ์ โดยคืนนี้สหรัฐจะมีการประกาศดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการของเดือน เม.ย. และยอดขายบ้านใหม่เดือน มี.ค. ซึ่งหากประกาศออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ราคาทองคำอาจจะฟื้นตัวขึ้นได้ โดยแนะนำนักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไรที่ระดับ 3,250 ดอลลาร์ และหากปรับขึ้นประมาณ 3,375 ดอลลาร์ สามารถขายทำกำไรได้ ขณะที่ระยะยาวแนะนำทยอยเข้าสะสมได้หากราคาปรับลดลง

อย่างไรก็ตาม มองว่าราคาทองคำที่ปรับลดลงจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาได้ทุกเมื่อ โดยมองว่าแม้สถานการณ์จะคลี่คลาย แต่การเจรจาอาจจะเป็นการยืดเยื้อต่อเนื่อง โดยมองว่าทั้งปีทองน่าจะปรับขึ้นได้เต็มที่ ในระดับ 3,630 ดอลลาร์ และแนวรับทั้งปีที่ 3,000 ดอลลาร์ หรือทองไทยประมาณ 52,000 บาท หากกรณีที่เลวร้ายอาจจะอยู่ที่ประมาณ 49,500 บาท